นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายที่สำคัญคือการเร่งให้มีการบริหารจัดการน้ำในระดับประเทศอย่างมีประสิทธิภาพให้สามารถป้องกันปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง โดยได้ดำเนินการปรับปรุง ซ่อมแซม บำรุงรักษาระบบชลประทานให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เพื่อการส่งน้ำและระบายน้ำให้พื้นที่เพาะปลูก 24.32 ล้านไร่ 444 รายการ
ทั้งนี้ประกอบด้วยการดำเนินโครงการตามแผนปฏิบัติการเพื่อบรรเทาปัญหาอุทกภัยระยะเร่งด่วน จำแนกลักษณะงานเป็น 4 ประเภท ประกอบด้วย การป้องกันน้ำล้นจากแม่น้ำ, การเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำออกแม่น้ำและลงทะเล, ระบบเสริมในพื้นที่เศรษฐกิจ ทั้งนิคมอุตสาหกรรมและชุมชน และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำและการเตือนภัย ขณะนี้ได้รับอนุมัติงบประมาณแล้ว 123 รายการ ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมการจัดซื้อจัดจ้าง 70 รายการ และลงนามในสัญญาแล้ว 4 รายการ
นอกจากนี้ยังได้มีการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ 1,196 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 124 เครื่อง เสริมแนวกระสอบทรายริมถนนเดิม 55 แห่ง ความยาว 22,318 เมตร เสริมคันดินกั้นน้ำ 72 แห่ง ซ่อมแซมคันกั้นน้ำ 99 แห่ง ขุดลอกคลองระบายน้ำ 18 สาย กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ และกำจัดวัชพืช 219 สาย ปริมาณรวม 1,782,598 ตัน ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยป้องกันน้ำท่วมได้ หากมีปริมาณน้ำมากอย่างปีที่ผ่านมา
ส่วนการก่อสร้างระบบชลประทานขนาดใหญ่ 12 โครงการ ขนาดกลาง 64 โครงการโดยเป็นโครงการต่อเนื่อง 31 โครงการ และโครงการใหม่ 33 โครงการ และขนาดเล็ก โดยก่อสร้างแหล่งน้ำและระบบส่งน้ำ 106 แห่ง ซึ่งจะสามารถช่วยเพิ่มพื้นที่ชลประทานจากโครงการทั้งสิ้น 1,657,420 ไร่ รวมทั้งดำเนินการขุดลอกคลอง 183 รายการ และอ่างเก็บน้ำ 6 รายการ และก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า 31 แห่ง
แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันอังคารที่ 5 มิถุนายน 2555
|