Page 66 - คาดการณ์พื้นที่เกษตรเสี่ยงภัยแล้งปี2558
P. 66
57
0.911 รองลงมาคือลักษณะเนื้อดิน ซึ่งมีคาสัมประสิทธิ์สหสัมพันธเทากับ 0.852 สาหรับปจจัยอื่นๆ ที่ใชใน
การศึกษามีคาความสัมพันธไมแตกตางกัน และผลการศึกษา ความเสี่ยงตอความแหงแลง
จิตราพร (2554) ไดศึกษาเรื่องการวิเคราะหพื้นที่เสี่ยงภัยแลงบริเวณลุมน้ําแมกลาง เพื่อการใช
ประโยชนที่ดินอยางยั่งยืน โดยมีวัตถุประสงคเพื่อวิเคราะหหาพื้นที่เสี่ยงภัยแลง และเสนอแนะแนวทางเพื่อให
เกิดการใชประโยชนที่ดินอยางยั่งยืนบริเวณลุมน้ําแมกลาง จังหวัดเชียงใหม โดยใชการตัดสินใจแบบหลาย
เกณฑและระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตรทําการศึกษาวิเคราะห 7 เกณฑปจจัยที่เกี่ยวของ ไดแก ปริมาณ
น้ําฝนเฉลี่ยรายป การใชประโยชนที่ดิน ความสามารถในการอุมน้ําของดิน คาการใชน้ําของพืช ความหนาแนน
ของลําธาร ขนาดของพื้นที่ลุมน้ํายอย และความลาดชัน รวมกับการประยุกตใชวิธีการตัดสินใจดวย
กระบวนการวิเคราะหตามลําดับชั้นเพื่อลําดับหนวยพื้นที่ศึกษาและจัดกลุมตามระดับความเสี่ยงภัยแลงเปน 5
ระดับ คือ พื้นที่เสี่ยงตอการเกิดภัยแลงมากที่สุด มาก ปานกลาง นอย และไมเสี่ยงตอการเกิดภัยแลงจาก
การศึกษา พบวาพื้นที่ลุมน้ําแมกลางซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมด 606.07 ตารางกิโลเมตร ถูกจัดเปนพื้นที่เสี่ยงตอการ
เกิดภัยแลงมากที่สุด 3,528 ไร หรือ 5.65 ตารางกิโลเมตร พื้นที่เสี่ยงตอการเกิดภัยแลงมาก 16,541 ไร หรือ
26.47 ตารางกิโลเมตร พื้นที่เสี่ยงตอการเกิดภัยแลงปานกลาง 103,055 ไร หรือ 164.85 ตารางกิโลเมตร
พื้นที่เสี่ยงตอการเกิดภัยแลงนอย192,959 ไร หรือ 308.73 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ที่ไมเสี่ยงตอการเกิดภัยแลง
62,711 ไร หรือ100.34 ตารางกิโลเมตร โดยแนวทางบรรเทาภาวะภัยแลงในพื้นที่ที่สามารถกระทําไดตามแนว
ทางการใชประโยชนที่ดินอยางยั่งยืน คือ การปองกันรักษาและฟนฟูพื้นที่ปาไม การสรางแหลงเก็บกักน้ํา การ
จัดระบบปลูกพืชโดยการเลือกชนิดพันธุพืชและชวงเวลาปลูกที่เหมาะสมและการอนุรักษดินและน้ําโดยการ
ปลูกหญาแฝก และการเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน
3.3.3 งานวิจัยเกี่ยวกับการประเมิน ติดตาม และตรวจสอบความแหงแลง
อภิรัฐ (2544) ไดประเมินความแหงแลงดวยดัชนีความแหงแลงโดยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร
ในลุมน้ําแมกลอง ขอมูลที่นํามาวิเคราะหคือ ปริมาณน้ําฝนรายวัน จํานวนวันที่ฝนตก จํานวนวันที่ฝนทิ้งชวง
สูงสุดรายป และการใชที่ดิน ดัชนีความแหงแลงรายป ที่เลือกใช คือ decile range ดัชนีความแหงแลงราย
เดือน generalized monsoon index (GMI) และ aridity index จากการศึกษาสามารถระบุไดวาเขตที่มี
สภาวะฝนแลงที่สุด คือ ลุมน้ํายอยลําตะเพิน และเขตที่มีสภาวะฝนปกติและชุมชื้น คือ ลุมน้ํายอยแควใหญ
ตอนบน หวยแมจัน หวยแมละมุง หวยเขยง หวยบองตี้ หวยแมน้ํานอย ที่ราบแมกลอง และลําภาชี และดัชนี
ความแหงแลงที่เหมาะสมในการวิเคราะหความแหงแลงฝนรายปคือ Decile Range ดัชนีความแหงแลงราย
เดือนที่เหมาะสมคือ Generalized Monsoon (GMI) และ Aridity Index สําหรับฝนรายป และจํานวนวันที่มี
ฝนตกรวมในลักษณะตางๆ มีความสัมพันธกันในทางเชิงลบ
อมเรศ (2546) ไดศึกษาสภาพความแหงแลงลุมน้ํายม โดยเริ่มจากการตรวจสอบสภาพความ
แหงแลงที่ผานมา คนหาสาเหตุ และความรุนแรงของสภาพความแหงแลงในแตละพื้นที่ โดยยึดหลักปริมาณน้ํา
ที่มีในพื้นที่โดยสภาพธรรมชาติคือน้ําฝนและน้ําทา เทียบกับการใชน้ําในกิจกรรมตางๆ ในแตละพื้นที่แลว
กําหนดดัชนีวัดความแหงแลงในแตละพื้นที่ลุมน้ํายม จากการศึกษาพบวา พื้นที่ลุมน้ํายมตอนลางในแมน้ํายม
สายหลักจะประสบปญหาขาดแคลนน้ําโดยเฉลี่ยเกือบทุกป และในรอบ 5-6 ป จะรุนแรงมากครั้งหนึ่ง สวน
พื้นที่ที่อยูไกลจากแมน้ําก็ประสบปญหาภัยแลงในชวงตนฤดูฝนและในฤดูแลง เนื่องจากปริมาณฝนในชวงฤดู
แลงมีคานอยมากสวนในพื้นที่ลุมน้ํายมตอนบนประสบปญหาความแหงแลงนอยกวาตอนลาง เนื่องจากปริมาณ
ฝนโดยรวมสูงกวาพื้นที่อื่นๆ และการใชน้ํายังอยูในเกณฑต่ํา สวนน้ําอุปโภคบริโภคขาดแคลนมากในชวงฤดูแลง
เกือบทุกพื้นที่ของลุมน้ํายม แตจะขาดแคลนน้ําในพื้นที่จังหวัดสุโขทัยและจังหวัดแพร นอกจากนี้ยังพบวาใน