Page 26 - น้ำท่วมซ้ำซาก 7 จังหวัดภาคเหนือ ปรับปรุงปี2557
P. 26

16


                                   -  เส้นทางคมนาคมและการขนส่ง อาจจะถูกตัดขาดเป็นช่วง ๆ โดยความแรงของ
               กระแสน้ํา ถนน และสะพานอาจจะถูกกระแสน้ําพัดให้พังทลายได้ ยานพาหนะวิ่งรับส่งสินค้าไม่ได้ทําให้เกิด

               ความเสียหายทางเศรษฐกิจ
                                   -  ระบบสาธารณูปโภคจะได้รับความเสียหาย เช่น โทรศัพท์ ไฟฟ้า ประปา
               ระบบการระบายน้ํา ท่าอากาศยาน สวนสาธารณะ และโรงเรียน เป็นต้น
                                   -  พื้นที่การเกษตรและการปศุสัตว์จะได้รับความเสียหาย เช่น พืชผล ไร่นา ที่กําลัง

               ให้ผลผลิตอาจถูกน้ําท่วมตายได้ สัตว์พาหนะ วัว ควาย สัตว์เลี้ยงตลอดจนผลผลิตที่เก็บกักตุนหรือมีไว้เพื่อทําพันธุ์
               จะได้รับความเสียหาย
                                      -   ความเสียหายทางเศรษฐกิจรายได้ของประเทศลดลง รัฐต้องมีรายจ่ายสูงขึ้นจาก
               การซ่อมบูรณะซ่อมแซมและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและเกิดข้าวของแพงทั่วไป

                                      -    ความเสียหายทางด้านสุขภาพอนามัยของประชาชน ขณะเกิดอุทกภัยขาดน้ําดีน้ําใช้
               ในการอุปโภคบริโภค ขาดความสะดวกด้านห้องน้ํา ห้องส้วม ทําให้เกิดโรคระบาด เช่น โรคน้ํากัดเท้า โรคอหิวาตกโรค
               รวมทั้งโรคเครียดมีความวิตกกังวลสูงและโรคประสาทตามมา
                                     -     ความเสียหายที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติ ฝนตกที่หนัก น้ําที่ท่วมขึ้นมาบนแผ่นดิน

               และกระแสน้ําที่ไหลเชี่ยวทําให้เกิดดินถล่มได้ นอกจากนั้นผิวหน้าดินที่อุดมสมบูรณ์จะถูกน้ําพัดพาลงสู่ที่ต่ํา
               ทําให้ดินขาดปุ๋ยธรรมชาติและแหล่งน้ําเกิดการตื้นเขิน
               3.5 สถานการณ์การเกิดอุทกภัยที่ผ่านมา

                       ในระยะเวลาที่ผ่านมา พื้นที่หลายแห่งของประเทศประสบกับภาวะน้ําท่วม ซึ่งคาดว่าจะทวีความ
               รุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานซ้ําซากโดยการเกิดน้ําท่วมนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 จนถึง
               ปัจจุบันสามารถสรุปได้ดังนี้
                       -  ปี 2545 ในช่วงระหว่างปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายน มีพายุฝนที่เกิดจากร่องความกดอากาศ

               ต่ําในพื้นที่ลุ่มน้ําชีและมูลอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่เกิดปริมาณน้ําไหลหลาก
               แต่เนื่องจากลุ่มน้ําไม่สามารถรองรับปริมาณน้ําและระบายได้ทันจึงไหลท่วมขังในพื้นที่ต่างๆ และประกอบกับ
               เป็นช่วงที่ระดับน้ําทะเลหนุนสูงขึ้น  ทําให้เกิดน้ําท่วมกระจายในพื้นที่ลุ่มน้ําทั้งสองเป็นบริเวณกว้าง ครอบคลุม

               10  จังหวัด บริเวณที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด ได้แก่ จังหวัดร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ  และยโสธร ทําให้มีพื้นที่
               การเกษตรเสียหายประมาณ 3 ล้านไร่ จากนั้นช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคมได้เกิดน้ําท่วมเสียหายเป็นบริเวณกว้าง
               ในบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือบางส่วน รวม 58 จังหวัด ทําให้พื้นที่การเกษตร
               ได้รับความเสียหายประมาณ  9  ล้านไร่  มูลค่าความเสียหาย 6,200  ล้านบาท  โดยเฉพาะจังหวัดลพบุรี

               เจอน้ําป่าทะลักจากจังหวัดเพชรบูรณ์ ทําให้น้ําเข้าท่วมถึงเขตเทศบาลตําบลลํานารายณ์
                       -  ปี 2546  ในช่วงกลางเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นที่พาดผ่านประเทศไทยและ
               ขึ้นฝั่งที่ จ.เพชรบุรีในวันที่ 23  ตุลาคม 2546  ส่งผลให้จังหวัดเพชรบุรีและบริเวณภาคใต้ตอนบนมีฝนตก
               หนัก  เกิดน้ําท่วมฉับพลันและน้ําป่าไหลหลากได้ในพื้นที่ลุ่มและพื้นที่เสี่ยงภัย  โดยเฉพาะบริเวณจังหวัด

               เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร  และสุราษฎร์ธานี จากนั้นช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม
               หย่อมความกดอากาศต่ํากําลังแรงซึ่งมีกลุ่มฝนหนาแน่นปกคลุมบริเวณอ่าวไทยในทางด้านตะวันออกของ
               จังหวัดนครศรีธรรมราชประกอบกับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดผ่านอ่าวไทย ทําให้ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย
               บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช  พัทลุง และสงขลา มีฝนตกชุกหนาแน่นกับมีฝนตกหนัก

               ในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทําให้เกิดน้ําท่วมฉับพลันและน้ําป่าไหลหลากเพิ่มมากขึ้น พื้นที่การเกษตร
               ของประชาชน ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31