Page 26 - การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณน้ำฝนกับความชื้นในดินของพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ง จังหวัดสระแก้ว
P. 26
17
่
3.2.3 การเคลือนที่ของความชื้นในดิน
็
ิ
เมื่อใหน้ำแกพืชผิวดินหรือเมื่อมีฝนตกน้ำจะไหลซึมเขาไปในชองวางระหวางเมดดนและตามรอย
ิ
่
ิ
แตกระแหงหรือรูโพรงทีเกิดจากการเนาผุของรากพืช อันเนื่องจากการเตรียมดินการไหลซึมของน้ำจากผวดน
เขาไปในดินนี้เรียกวา การซึมผานผิวดิน (infiltration) ซึ่งจะแตกตางจากการซึมลึก ภายในดินหรือเรียกวา
percolation
หลังจากทีน้ำซึมผานผิวดินจะไหลตอไปตามชองของดินดวยแรงดึงดูดของโลกและแรงดูดซับ
่
(capillary) ตามชองวางขนาดเล็ก อัตราทีน้ำบนผิวดินไหลซึมเขาไปในดินตอหนึ่งหนวยเวลา เรียกวา
่
ึ
infiltration rate หรือ intake rate อัตราดังกลาวขึ้นอยูกับองคประกอบหลายอยางดวยกัน เชน ความลกของน้ำ
ิ
ที่ขังอยูบนผิวดิน ลักษณะโครงสรางของดิน เนื้อดิน อุณหภูมของน้ำและอุณหภูมของดิน ตลอดจน
ิ
ปริมาณความชื้นที่มีอยูในดิน ในตอนแรกที่มีการใหน้ำแกดิน อัตราการซึมผานผวดินจะสูง เนื่องจากผิวดินยังแหง
ิ
เมื่อดินชั้นบนเริ่มอิ่มตัว อัตราการซึมผานคอย ๆ ลดลง และในที่สุดก็จะถึงจุดหนึ่งซึ่งอัตราการผานผิวดน
ิ
จะมีคาคงที่ตลอดไปจนกวาจะหยุดการใหน้ำคาที่เกือบคงที่ดังกลาวนี้ประมาณเทากับความสามารถใหน้ำซึม
ิ
้
ผานได (permeability) ของดนนันเอง
ู
่
ื
ื
ึ
ั
ี่
ื
ั
ิ
หลังจากทน้ำที่ไหลดวยแรงดงดดของโลกเคลอนตวออกไปจากดนแลว ศักยภาพหลกทเหลอก็คอ
ี่
ั
ศกยภาพดดซึม (capillary potential) การไหลจะมีทิศทางจากบริเวณที่มีศักยภาพสูงไปยังบริเวณที่มีศกยภาพตำ
ู
่
ั
อัตราการไหลก็จะขึ้นอยูกับความแตกตางของศกยภาพดงกลาวดวย ซึ่งหากมีความแตกตางมาก อัตราการไหล
ั
ั
จะมากหรือเร็วและในทางตรงกันขามหากความแตกตางมีนอย อัตราการไหลก็จะชาหรือนอยตามไปดวย
้
คาการนําน้ำจะสูงขึ้น หากมีปริมาณความชื้นในดินมากขึ้น และจะลดลงเมื่อขนาดชองวางในดินใหญขึน
การเคลื่อนที่ดวยแรงดดซึมของน้ำในดินจะมีอัตราชาลงหากดนแลงและจะมคานอยทสุดในดินซึ่งมีเม็ดละเอียด
ี
ี่
ิ
ู
มากหรือพวก fine grain นั้นเอง
3.2.4 ปจจัยที่มีผลตอความชื้นในดิน
ปจจัยที่มีผลตอปริมาณของความชื้นในดิน คือการซึมของน้ำ หรือการเคลื่อนยายน้ำลงดิน ซึ่งน้ำท ี่
มีการซึมลงดินนี้เองจะเปนสวนหนึ่งของความชื้นในดิน กลาวคือถาปริมาณการซึม น้ำมีมากก็จะทำใหมีปริมาณ
้
ความชื้นเพิ่มขึ้นในดินไดอยางรวดเร็ว ดังนั้นปจจัยพื้นฐานที่มีอิทธิพลตอการเปลี่ยนแปลงของความชืนในดน
ิ
ู
ิ
ไดแก กระบวนการตกตะกอน ปริมาณแสงอาทตย สภาพภมประเทศ สมบัตของดน โครงสรางดน อินทรียวัตถุ
ิ
ิ
ิ
ิ
ในดน ความลึกของดินจนถึงชั้นหิน แข็ง ชนิดและความหนาแนนของพืชพรรณที่ปกคลุมดิน ความลึกของระดบ
ิ
ั
น้ำใตดิน และ ปริมาณน้ำฝน (เกษม, 2551; อมลรัตน, 2544) ฤดูกาลเปนสาเหตุหนึ่งททำใหความชื้นในดน
ี
ิ
่
ู
ี่
ู
เปลี่ยนแปลงไป ความชื้นในดินชวงฤดแลงนอยกวาชวงฤดฝน ในทุกพื้นที่ที่ศึกษาและการเปลยนแปลงปริมาณ
่
ู
ความชื้นในดินในแตละการใชทีดน และยังขึ้นอยูกับฤดกาล (สรินทร, 2525)
ุ
ิ
3.3 พื้นที่เสี่ยงภัยแลง
พื้นที่เสี่ยงภัยแลง หมายถึง พื้นที่มีโอกาสเปนแหลงทีไดรับผลกระทบจากปรากฏการณใดปรากฏการณหนึ่ง
่
่
่
ี
ี
่
้
โดยเปนแหลงที่มีปริมาณน้ำฝนลดตำกวาเกณฑปกติในพืนท หรือการเกิดสภาวะการขาดน้ำ อันมาจากการทม ี
ฝนนอยกวาปกติ หรือฝนไมตกตามฤดูกาล มีความแหงแลงที่ แตกตางกัน ทั้งความรุนแรง ระยะเวลา และพื้นท ี่
ครอบคลุมความแหงแลง ทั้งนี้ กอใหเกิดปญหาตาง ๆ ตอประชากรและสิ่งมีชีวิต ทั้งทางตรงและทางออม
อุตุนิยมวิทยา หมายถึง ศาสตรที่วาดวยปรากฏการณของภูมิอากาศ ในที่นี้หมายถงขอมูลอันเกี่ยวเนื่อง
ึ
กับปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ โดยครอบคลุมสถิติอุณหภูมิ ความชื้น ความกดอากาศ หยาดน้ำฟา ปริมาณอนุภาคใน
่
้
บรรยากาศ และการวัดคาเฉลยตาง ๆ ในพืนทเปนเวลานาน
ี
่
ี