Page 54 - Management_agricultural_drought_2561
P. 54
47
Chenglin et al. (2004) ติดตามสภาวะการเกิดภัยแลง โดยใชขอมูล normalized difference
vegetative index (NDVI) หาความสัมพันธคาความชื้นของพืชพรรณ และ normalized difference water
index (NDWI) วัดปริมาณน้ําในดิน บริเวณพื้นที่เกษตร ทางภาคเหนือของประเทศจีน ซึ่งสามารถติดตาม
สภาวะความแหงแลงดังกลาว ไดอยางถูกตองแมนยําและทันตอสถานการณภัยแลง
วีระศักดิ์ และ พูลศิริ (2548) ไดศึกษาการกําหนดพื้นที่เสี่ยงภัยแลงบริเวณภาคตะวันออกของ
ประเทศไทย โดยศึกษาปจจัยที่กอใหเกิดสภาวะแหงแลง ใชการวิเคราะหหาความสัมพันธเชิงพื้นที่ระหวาง
ปจจัยตางๆ รวมกับการใชระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตรในการจัดเตรียมขอมูลพื้นฐาน วิเคราะห และจัดทํา
แผนที่ ซึ่งการวิเคราะหเพื่อกําหนดพื้นที่เสี่ยงภัยแลงไดกําหนดคาถวงน้ําหนักของแตละปจจัยตามลําดับของ
อิทธิพลที่มีตอความแหงแลง คือ ดัชนีฝนแลง การอุมน้ําของดิน พื้นที่ชลประทาน ปริมาณน้ําใตดิน จํานวน
วันที่ฝนตกรายปเฉลี่ย และการใชประโยชนที่ดิน มีคาถวงเปน 3 : 2.5 : 2 : 1.5 : 1 : 1 ตามลําดับ พบวา
สามารถจัดกลุมระดับความเสี่ยงภัยแลงบริเวณภาคตะวันออกเปน 4 ระดับ คือ ระดับไมเสี่ยงภัยแลงมีพื้นที่
8,370.24ตารางกิโลเมตร เสี่ยวงภัยแลงระดับต่ํามีพื้นที่ 10,236.22 ตารางกิโลเมตร เสี่ยงภัยแลงระดับปาน
กลางมีพื้นที่ 10,343.06 ตารางกิโลเมตร และเสี่ยงภัยแลงระดับสูงมีพื้นที่ 5,661.74 ตารางกิโลเมตร
ตรีรัตน และคณะ (2549) ไดศึกษาการประเมินโอกาสเกิดความแหงแลงเชิงพื้นที่ในลุมน้ํากวาน
พะเยา ในพื้นที่อําเภอเมือง อําเภอแมใจและบางสวนของ กิ่งอําเภอภูกามยาว ใชปจจัยดานอุทกวิทยา
อุตุนิยมวิทยาและ การเกษตร พบวาพื้นที่สวนใหญที่โอกาสเกิดพื้นที่แหงแลงปานกลาง คิดเปนพื้นที่ 655.45
ตารางกิโลเมตร (69.57%) พื้นที่ที่มีโอกาสเกิดพื้นที่แหงแลงต่ําหรือ ไมเกิด คิดเปนพื้นที่ 149.92 ตาราง
กิโลเมตร (15.91%) และพื้นที่ที่มีโอกาสพื้นที่แหงแลงสูงคิดเปนพื้นที่ 136.82 ตารางกิโลเมตร (14.52%)
จิตราพร (2554) ไดศึกษาเรื่องการวิเคราะหพื้นที่เสี่ยงภัยแลงบริเวณลุมน้ําแมกลาง เพื่อการใช
ประโยชนที่ดินอยางยั่งยืน โดยมีวัตถุประสงคเพื่อวิเคราะหหาพื้นที่เสี่ยงภัยแลง และเสนอแนะแนวทางเพื่อให
เกิดการใชประโยชนที่ดินอยางยั่งยืนบริเวณลุมน้ําแมกลาง จังหวัดเชียงใหม โดยใชการตัดสินใจแบบหลาย
เกณฑและระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตรทําการศึกษาวิเคราะห 7 เกณฑปจจัยที่เกี่ยวของ ไดแก ปริมาณ
น้ําฝนเฉลี่ยรายป การใชประโยชนที่ดิน ความสามารถในการอุมน้ําของดิน คาการใชน้ําของพืช ความหนาแนน
ของลําธาร ขนาดของพื้นที่ลุมน้ํายอย และความลาดชัน รวมกับการประยุกตใชวิธีการตัดสินใจดวย
กระบวนการวิเคราะหตามลําดับชั้นเพื่อลําดับหนวยพื้นที่ศึกษาและจัดกลุมตามระดับความเสี่ยงภัยแลงเปน 5
ระดับ คือ พื้นที่เสี่ยงตอการเกิดภัยแลงมากที่สุด มาก ปานกลาง นอย และไมเสี่ยงตอการเกิดภัยแลงจาก
การศึกษา พบวาพื้นที่ลุมน้ําแมกลางซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมด 606.07 ตารางกิโลเมตร ถูกจัดเปนพื้นที่เสี่ยงตอการ
เกิดภัยแลงมากที่สุด 3,528 ไร หรือ 5.65 ตารางกิโลเมตร พื้นที่เสี่ยงตอการเกิดภัยแลงมาก 16,541 ไร หรือ
26.47 ตารางกิโลเมตร พื้นที่เสี่ยงตอการเกิดภัยแลงปานกลาง 103,055 ไร หรือ 164.85 ตารางกิโลเมตร
พื้นที่เสี่ยงตอการเกิดภัยแลงนอย192,959 ไร หรือ 308.73 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ที่ไมเสี่ยงตอการเกิดภัยแลง
62,711 ไร หรือ100.34 ตารางกิโลเมตร โดยแนวทางบรรเทาภาวะภัยแลงในพื้นที่ที่สามารถกระทําไดตามแนว
ทางการใชประโยชนที่ดินอยางยั่งยืน คือ การปองกันรักษาและฟนฟูพื้นที่ปาไม การสรางแหลงเก็บกักน้ํา การ
จัดระบบปลูกพืชโดยการเลือกชนิดพันธุพืชและชวงเวลาปลูกที่เหมาะสมและการอนุรักษดินและน้ําโดยการ
ปลูกหญาแฝก และการเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน