Page 27 - น้ำท่วมซ้ำซาก 10 จังหวัดภาคเหนือ
P. 27
19
- ความเสียหายที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติ ฝนตกที่หนัก น้ําที่ท่วมขึ้นมาบนแผ่นดิน
และกระแสน้ําที่ไหลเชี่ยวทําให้เกิดดินถล่มได้ นอกจากนั้นผิวหน้าดินที่อุดมสมบูรณ์จะถูกน้ําพัดพาลงสู่ที่ต่ํา ทํา
ให้ดินขาดปุ๋ยธรรมชาติ และแหล่งน้ําเกิดการตื้นเขิน
3.5 สถานการณ์การเกิดอุทกภัยที่ผ่านมา
ในระยะเวลาที่ผ่านมา พื้นที่หลายแห่งของประเทศประสบกับภาวะน้ําท่วม ซึ่งคาดว่าจะทวีความ
รุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานซ้ําซาก โดยการเกิดน้ําท่วมนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 จนถึง
ปัจจุบันสามารถสรุปได้ดังนี้
- ปี 2545 ในช่วงระหว่างปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายน มีพายุฝนที่เกิดจากร่องความกด
อากาศต่ําในพื้นที่ลุ่มน้ําชีและมูลอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่เกิดปริมาณน้ําไหลหลาก แต่
เนื่องจากลุ่มน้ําไม่สามารถรองรับปริมาณน้ําและระบายได้ทันจึงไหลท่วมขังในพื้นที่ต่างๆ และประกอบกับเป็นช่วงที่
ระดับน้ําทะเลหนุนสูงขึ้น ทําให้เกิดน้ําท่วมกระจายในพื้นที่ลุ่มน้ําทั้งสองเป็นบริเวณกว้าง ครอบคลุม 10 จังหวัด
บริเวณที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด ได้แก่ จังหวัดร้อยเอ็ด ศรีษะเกษ และยโสธร ทําให้มีพื้นที่การเกษตร
เสียหายประมาณ 3 ล้านไร่ จากนั้นช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคมได้เกิดน้ําท่วมเสียหายเป็นบริเวณกว้างในบริเวณ
ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือบางส่วน รวม 58 จังหวัด ทําให้พื้นที่การเกษตรได้รับความ
เสียหายประมาณ 9 ล้านไร่ มูลค่าความเสียหาย 6,200 ล้านบาท โดยเฉพาะจังหวัดลพบุรีเจอน้ําป่าทะลักจาก
จังหวัดเพชรบูรณ์ ทําให้น้ําเข้าท่วมถึงเขตเทศบาลตําบลลํานารายณ์
- ปี 2546 ในช่วงเดือนกลางเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นที่พาดผ่าน
ประเทศไทยและขึ้นฝั่งที่ จ.เพชรบุรีในวันที่ 23 ตุลาคม 2546 ส่งผลให้จังหวัดเพชรบุรีและบริเวณภาคใต้
ตอนบนมีฝนตกหนัก เกิดน้ําท่วมฉับพลันและน้ําป่าไหลหลากได้ในพื้นที่ลุ่มและพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะ
บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี จากนั้นช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือน
ธันวาคมหย่อมความกดอากาศต่ํากําลังแรงซึ่งมีกลุ่มฝนหนาแน่นปกคลุมบริเวณอ่าวไทยในทางด้าน
ตะวันออกของจังหวัดนครศรีธรรมราชประกอบกับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดผ่านอ่าวไทย ทําให้
ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา มีฝนตกชุก
หนาแน่นกับมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทําให้เกิดน้ําท่วมฉับพลันและน้ําป่าไหลหลาก
เพิ่มมากขึ้น พื้นที่การเกษตรของประชาชน ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
- ปี 2547 ในช่วงระหว่างวันที่ 18-20 พฤษภาคม 2547 ปริมาณน้ําฝนหนักมากกว่าปกติ
โดยเฉพาะวันที่ 20 พฤษภาคม 2547 มีปริมาณน้ําฝนมากถึง 160 มิลลิเมตร ทําให้ดินบนภูเขาสูงชันไม่
สามารถอุ้มน้ําไว้ได้ เกิดดินถล่มลงมาอย่างรุนแรงในบริเวณป่าธรรมชาติและไร่ร้าง โดยมีพื้นที่ประสบภัย 3
อําเภอ 3 จังหวัด (อําเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก อําเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ และ อําเภอสบเมย จังหวัด
แม่ฮ่องสอน) ราษฎร์ได้รับความเดือดร้อน บ้านเรือน สิ่งสาธารณะประโยชน์ ถนน ทํานบ เหมือง ฝาย และ
พื้นที่เกษตร ได้รับความเสียหายจํานวนมาก จากนั้นช่วงกลางเดือนมิถุนายนได้เกิดพายุดีเปรสชั่น "จันทู" ที่พัด
เคลื่อนตัวมาจากประเทศลาว ทําให้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักทั่วภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ส่งผลให้พื้นที่ของจังหวัดน่าน แพร่ เพชรบูรณ์ และพิษณุโลกเกิดน้ําท่วมและได้รับความเสียหายอย่างหนัก