Page 30 - น้ำท่วมซ้ำซาก 10 จังหวัดภาคเหนือ
P. 30
22
ชัยภูมิ มหาสารคาม รวมทั้งสภาวะน้ําท่วมในภาคใต้ เนื่องจากพายุโซนร้อน “นูล” ที่มีอิทธิพลทําให้ฝนตก
ต่อเนื่องหลายวันตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน ทําให้น้ําท่วมในจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง
ปัตตานี สงขลา ตรัง และนราธิวาส
- ปี 2552 ประเทศไทยมีฝนชุกในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ส่วนเดือนอื่นๆ เกือบทุกภาคมีฝน
น้อยปริมาณฝนรวมทั่วประเทศตลอดปีสูงกว่าค่าปกติประมาณ 2 % แต่ต่ํากว่าปีที่ผ่านมา (ปี 2551 มีปริมาณ
ฝน 1751.4 มิลลิเมตรสูงกว่าค่าปกติ 11%) และในปีนี้มีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยเพียง 1 ลูก
คือพายุดีเปรสชันที่อ่อนกําลังลงจากไต้ฝุ่น“กิสนา” โดยเคลื่อนเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณอําเภอ
โขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 30 กันยายน และอ่อนกําลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ํากําลังแรง
ปกคลุมบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี และศรีสะเกษในวันต่อมา ส่งผลให้ประเทศไทยมีการกระจายของฝนเพิ่ม
ขึ้นกับมีฝนหนักถึงหนักมากบางพื้นที่โดยเฉพาะบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง และมีรายงาน
น้ําท่วมบางพื้นที่ในช่วงดังกล่าว ในช่วงกลางเดือนมิถุนายนและกลางเดือนกรกฎาคม ร่องความกดอากาศต่ํา
พาดผ่านบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยรวมทั้งอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
กําลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทําให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกค่อนข้างหนัก
โดยเฉพาะจังหวัดอุตรดิตถ์ แพร่ สุโขทัย ทําให้เกิดน้ําท่วมฉับพลันและน้ําป่าไหลหลาก ในพื้นที่ดังกล่าวและ
ในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดพังงา ระนอง สตูล และจังหวัดตรัง ส่วนในช่วงกรกรกฎาคมถึงกันยายน
อิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กําลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยประกอบกับ
ร่องความกดอากาศต่ําพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทําให้เกิดน้ําท่วมฉับพลันและน้ําป่า
ไหลหลาก ในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดระยอง จันทบุรี ตราด เชียงราย น่าน ลพบุรี และ
ลําปาง และช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกําลังแรงพัดปกคลุมภาคใต้และ
อ่าวไทยในช่วงวันที่ 3-8 พฤศจิกายน ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและเกิดน้ําท่วมในพื้นที่ภาคใต้พื้นที่ประสบภัย 10
จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ชุมพร สงขลา สตูล ตรัง นราธิวาส ยะลา และ
จังหวัดปัตตานี
- ปี 2553 เกิดเหตุการณ์น้ําท่วมในประเทศไทยหนักที่สุดในรอบหลายสิบปี เนื่องจากมีฝนตกหนัก
ในหลายพื้นที่ ในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินในหลายพื้นที่ ซึ่ง
อุทกภัยครั้งนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2553 จนกระทั่งสถานการณ์คลี่คลายทั้งหมดเมื่อวันที่ 14
ธันวาคม พ.ศ. 2553 ซึ่งมีสาเหตุการเกิดมาจากอิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ําพาดผ่านภาคใต้ตอนบน
ภาคกลางและภาคตะวันออก และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทําให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตก
หนักถึงหนักมาก หลายพื้นที่เกิดน้ําท่วมเฉียบพลัน น้ําป่าไหลหลาก เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร์และพื้นที่
การเกษตร โดยร่องมรสุมกําลังแรงดังกล่าวมีสาเหตุจากปรากฏการณ์ลานิญา ที่มาเร็วกว่าปกติ โดยฝนได้ตก
ลงมาในพื้นที่หลังเขาเป็นเวลาหลายวันเฉลี่ยมากกว่า 100 มิลลิเมตรต่อวัน ประกอบกับความแปรปรวนของ
ร่องฝน ซึ่งปกติจะต้องเคลื่อนลงไปแถวภาคใต้แล้ว ทําให้ปริมาณน้ําในอ่างเก็บน้ําหลายแห่งมีปริมาณน้ําเกิน
กว่าระดับกักเก็บ โดยเฉพาะเขื่อนลําพระเพลิง เขื่อนลําตะคอง เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จนต้องเร่งระบายน้ําออกสู่
พื้นที่ท้ายเขื่อน ซึ่งทําให้หลายพื้นที่เกิดอุทกภัยอย่างหนักเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือนที่พื้นที่ได้รับผลกระทบจาก