Page 29 - น้ำท่วมซ้ำซาก 10 จังหวัดภาคเหนือ
P. 29

21


               การผันน้ําเข้าเก็บกักเอาไว้ในพื้นที่ว่างเพื่อบรรเทาปัญหาน้ําท่วมโดยเฉพาะพื้นที่การเกษตรในจังหวัดชัยนาท

               สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี และปทุมธานี ประกอบกับอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น"เลกีมา" ที่
               พัดผ่านประเทศไทย ทําให้เกิดฝนตกหนักติดต่อ กันในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคเหนือ

               และภาคกลาง ทําให้เกิดปัญหาน้ําท่วมหนักส่งผลต่อพื้นที่ทางการเกษตรโดยเฉพาะนาข้าวซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มถูกน้ํา

               ท่วมขังสร้างความเสียหายต่อผลผลิตอย่างมาก ทั้งนี้พบว่ามีพื้นที่ประสบภัยน้ําท่วม 2,466,590 ไร่ จาก 28
               จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา ลําพูน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย ตาก กําแพงเพชร พิจิตร

               นครสวรรค์ อุทัยธานี สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ขอนแก่น ชัยภูมิ หนองคาย มุกดาหาร
               ร้อยเอ็ด อํานาจเจริญ หนองบัวลําภู มหาสารคาม เลย อุบลราชธานี กาฬสินธุ์ และนครราชสีมา ซึ่งมีพื้นที่นาข้าว

               ที่คาดว่าจะเสียหาย 1,422,774 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 58 ของพื้นที่ประสบภัยทั้งหมด ส่วนที่เหลือเป็นพืชไร่ ไม้ผล

               ไม้ยืนต้นและพืชอื่น
                       -  ปี 2551 ประเทศไทยมีฝนตกชุกต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ปริมาณฝนรวมตลอดปีสูงกว่าค่าปกติเกือบ

               ทุกภาคของประเทศ นอกจากนี้ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากพายุหมุนเขตร้อนที่เคลื่อนเข้าใกล้ประเทศไทย
               ได้แก่ พายุไซโคลน “นาร์กีส” ที่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศพม่า ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม พายุโซนร้อน “คัมมูริ” ที่

               เคลื่อนเข้าสู่ประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงต้นเดือนสิงหาคม และพายุโซนร้อน “นูล” ที่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศ

               กัมพูชาในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน  โดยในปีนี้มีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยเพียง 1  ลูก  คือ
               พายุดีเปรสชันที่อ่อนกําลังลงจากพายุโซนร้อน “เมขลา”  ได้เคลื่อนเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณ

               จังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 30  กันยายนแล้วอ่อนกําลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ําปกคลุมบริเวณ

               ภาคเหนือตอนกลางและสลายตัวไปในวันต่อมา  ส่งผลให้ประเทศไทยมีปริมาณและการกระจายของฝนเพิ่ม
               ขึ้นกับมีฝนหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ในช่วงดังกล่าว  โดยช่วงกรกฎาคมถึงกลางเดือนสิงหาคม มีอิทธิพลของ

               หย่อมความกดอากาศต่ําบริเวณภาคเหนือตอนบน  ทําให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดเชียงราย น่าน
               พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เป็นผลทําให้เกิดน้ําท่วมในบริเวณดังกล่าว โดยฝนตกติดต่อกันหลายวัน ส่งผลระดับน้ําใน

               แม่น้ําน่านเพิ่มขึ้น และเริ่มเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ส่วนช่วงเดือนกันยายน อิทธิพลของร่องความ

               กดอากาศต่ํากําลังแรงพาดผ่านบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทํา
               ให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนัก  ส่งผลให้เกิดจากน้ําท่วมฉับพลันและน้ําป่าไหล

               หลากหลายพื้นที่ ทําให้เกิดความเสียหายแก่พื้นที่การเกษตรจํานวน 38 จังหวัด โดยมีพื้นที่การเกษตร ที่ได้รับ
               ความเสียหายประมาณ 2,531,624  ไร่ โดยจังหวัดที่มีพื้นที่การเกษตรเสียหายมากที่สุด ได้แก่  จังหวัดลพบุรี

               นอกจากนี้ในช่วงวันที่ 31 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน 2551 อิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ํากําลังค่อนข้าง

               แรงปกคลุมภาคกลางของประเทศไทยและเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกตามแนวร่องความกดอากาศต่ําที่พาด
               ผ่านภาคกลาง  และภาคตะวันออก ทําให้มีฝนตกชุก และฝนตกหนักต่อเนื่องในบางพื้นที่โดยเฉพาะใน

               ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากภาวะดังกล่าวทําให้เกิดน้ําท่วมฉับพลัน และน้ําป่าไหล

               หลาก อีกทั้งยังเป็นเหตุให้ระดับน้ําในแม่น้ําปิง แม่น้ําวัง แม่น้ําเจ้าพระยา และแม่น้ําชี มีระดับสูงขึ้น ทําให้กรม
               ชลประทานได้ระบายน้ําท้ายเขื่อนในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้น้ําเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน และพื้นที่

               การเกษตรที่อยู่ติดกับริมฝั่งของแม่น้ําในหลายจังหวัด เช่น จังหวัดตาก  สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34