Page 69 - Management_agricultural_drought_2561
P. 69
บทที่ 6
การบริหารจัดการภัยแลง
ผลจากการใชทรัพยากรธรรมชาติอยางสิ้นเปลืองจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพิ่มรายไดของประชาชาติ
ประกอบกับการเพิ่มขึ้นของประชากร การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก ไดสงผลใหเกิดปญหาดาน
ภัยธรรมชาติ และทวีความรุนแรงและความถี่ในการเกิดมากขึ้นเรื่อยๆ แตละครั้งมักจะกอใหเกิดความเสียหาย
เปนจํานวนมาก ดังนั้นจึงจําเปนจะตองมีแนวทางในการบริหารจัดการกับภัยพิบัติ ดวยการมีกรอบการดําเนินงาน
และแผนงานที่ชัดเจน เพื่อเปนหลักใหหนวยงานที่เกี่ยวของรวมทั้งประชาชนไดนําไปปฏิบัติไดอยางเปนรูปธรรม
บรรเทาความสูญเสียและลดผลกระทบได โดยควรเนนไปที่การปองกัน การลดผลกระทบและการเตรียมพรอม
กอนเกิดภัย การจัดการระหวางมีภัยและการฟนฟูภายหลังการเกิดภัยหรือภัยสงบแลว
6.1 การบริหารจัดการภัยพิบัติของประเทศไทยในปจจุบัน
การบริหารจัดการ ตองมีองคประกอบในดานตางๆ ไดแก การเตรียมการปองกันและลดผลกระทบ
การเตรียมพรอมเพื่อรับการเกิดภัย การจัดการระหวางการมีภัย และการจัดการฟนฟูหลังการเกิดภัยขึ้นมาแลว
ปจจุบันไดมีการดําเนินการในเรื่องดังกลาวทั้งจากภาครัฐ เอกชน องคกรพัฒนาเอกชน ตลอดจนประชาชนเอง
ก็มีการตื่นตัวในดานนี้เปนอยางดี ซึ่งในปจจุบันไดมีการดําเนินการดานตางๆ เพื่อการบริหารจัดการปญหาภัย
พิบัติทางธรรมชาติ ไดแก
1) การจัดทําขอมูลพื้นที่เสี่ยงภัยตางๆ
2) การติดตั้งระบบเตือนภัย (Early warning) ในบางจุดที่มีความเสี่ยง แมจะยังไมครอบคลุมทุกพื้นที่ก็ตาม
3) การฝกอบรมเพื่อเตรียมความพรอมในการเผชิญกับภัย ทั้งในระดับเจาหนาที่และประชาชน
4) การประชาสัมพันธเพื่อสรางความรู ความเขาใจ ดานการเกิดภัย การปฏิบัติเมื่อเกิดภัย และการ
ฟนฟูหลังการเกิดภัย
5) การใหบริการขอมูลและขาวสาร
6) การวิเคราะหขอมูลพื้นที่ประสบภัยและการประเมินความเสียหายเบื้องตน เพื่อใหหนวยงาน
ที่เกี่ยวของสามารถดําเนินการชวยเหลือไดทันเวลา และถูกตองเหมาะสม
7) การใหความชวยเหลือในดานตางๆ เมื่อเกิดภัย ทั้งดานการฟนฟูที่ทํากิน ที่อยูอาศัย สุขอนามัย
ชีวิตความเปนอยู การประกอบอาชีพ และการฟนฟูดานจิตใจ
6.2 แนวทางการพัฒนาพื้นที่แลงซ้ําซาก
พื้นที่เสี่ยงภัยแลง เปนพื้นที่มีแนวโนมในการขาดแคลนน้ํา ดังนั้นการจัดการเรื่องน้ําจึงเปนสิ่งสําคัญ
ที่จะตองใหมีการเก็บกักน้ํา การชะลอการไหลของน้ํา และการเพิ่มระยะเวลาการไหลของน้ําใหยาวนานขึ้น
เนื่องจากแหลงที่มาของน้ําในประเทศไทย ไดรับน้ําจากน้ําฝนในชวงฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต พายุไตฝุน และ
ดีเปรสชั่นที่พัดผาน ในชวงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ซึ่งปริมาณฝนรวมตลอดปเฉลี่ยทั่วประเทศ
มีคาประมาณ 1,572.5 มิลลิเมตร แนวทางในการบริหารจัดการพื้นที่เพื่อเก็บกักน้ําฝนไวใชประโยชนใหมากที่สุดโดย