Page 37 - พื้นที่แล้งซ้ำซากภาคตะวันออก
P. 37

28





                                                                     ี
                                                                        ้
                                                                                          ุ
                              ื่
                                      ่
                                                       ่
                                                                                    
               ฝนตก แหลงน้ำอน ๆ จะเริมลดระดับลง และเมือมีฝนตกลงมาอกครังความแหงแลงทางอตุนิยมวิทยาจะเริ่มหมด
               ไป ความชุมชื้นในดินจะเพิ่มขึ้นกอนเปนอันดับแรก จากนั้นระดับน้ำเก็บกักผิวดินและใตดินจะเริ่มสงขึ้น ความแหง
                                                                                                ู
               แลงเชิงเกษตรกรรมจะหมดไปอยางรวดเร็วเพราะขึ้นอยูกับสภาพความชุมชื้นในดินเปนหลัก

               3.5 งานวิจัยทีเกี่ยวของ
                            ่
                                              
                     กรรณิกา และนพกร (2557) ไดศึกษาการวเคราะหความเสี่ยงตอความแหงแลงในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร
                                                       ิ
               โดยกำหนดปจจัยหลักที่เกี่ยวของกับความแหงแลง โดยการประยุกตใชระบบสารสนเทศภูมิศาสตร (GIS) เพื่อวิเคราะห
               ความเสี่ยงตอความแหงแลงไดกำหนดปจจัยที่ใชทั้งหมด 4 ปจจัย เปนปจจัยหลักโดยปจจัยที่มีความสำคัญและคาดวา
                                                                                               
               นาจะมีผลตอการเกิดความแหงแลงมากที่สุดในพื้นที่  ประกอบดวย  ปริมาณน้ำฝน  ระยะหางแหลงน้ำ  และการหา
                                                                        ิ
                                                                                             
                     ั
               ความสมพันธระหวางใชประโยชนที่ดิน  และคาดัชนีพืชพรร  ทำการวเคราะหขอมูลความเสี่ยงตอความแหงแลงใน
                        ั
                   ่
                 ้
               พืนทีจังหวดกำแพงเพชร โดยการซอนทับขอมูล (Map Overlay) จากแผนที่ที่จัดทำขึ้นนำมาวเคราะหเพื่อจัดแบงระดับ
                                                                                         ิ
               ความเสี่ยงพื้นทการเกิดภัยแลง โดยใชคาคะแนนความสำคัญของปจจัยหลักที่กำหนดไว ผลการศึกษาปจจัยที่มีอทธพล
                                                                                                       ิ
                            ี่
                                                                                                          ิ
                                             ้
               ตอความเสี่ยงตอความแหงแลง  ในพืนที่ศึกษาพบวาปจจัยที่มีอิทธิพลตอความเสี่ยงในการเกิดความแหงแลงในจังหวัด
                                                                                                            
               กำแพงเพชรจึงมีความสัมพันธที่เกี่ยวของกับปริมาณน้ำฝน และระยะหางของแหลงน้ำ และผลการศึกษาความเสี่ยงตอ
                                                                                            ่
               ความแหงแลงของพื้นที่ที่ศึกษาพบวา  พื้นที่ที่มีความเสี่ยงตอความแหงแลงมากที่สุดคิดเปนพืนที  922,094  ไร  หรือ
                                                                                         ้
                                                          ี่
               พื้นที่ที่มีความเสี่ยงตอความแหงแลงมาก คิดเปนพื้นท 1,820,047 ไร พื้นที่ที่มีความเสี่ยงตอความแหงแลงปานกลาง
                                                                                                            ี่
                                                                                                          ี่
               คิดเปนพื้นท 464,677 ไร พื้นที่ที่มีความเสี่ยงตอความแหงแลงนอย คิดเปนพื้นท 251,139 ไร สวนที่เหลือเปนพื้นททม ี
                         ี่
                                                                               ี่
                                                    ื้
                                                       ่
               ความเสี่ยงตอความแหงแลงนอยที่สุด คิดเปนพนที 36,375 ไร
                                                        ่
                                                                   ิ
                     ชาญชัย และ วรวีรุกรณ (2520)  ศกษาเรืองการประเมนความเสี่ยงทางกายภาพเชิงพื้นท  เพื่อหาพื้นที่เสี่ยง
                                                                                              ี่
                                                   ึ
               ตอความแหงแลงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม  ลำพูน  ลำปาง  และพะเยา  ซึ่งมีองคประกอบหลักดานกายภาพของพื้นที่
               3  องคประกอบดวยกันคือ  การประเมินสภาพภูมิอากาศ  การประเมินการใชที่ดิน  และการประเมินสภาพดิน
               ที่เปนอยูในพืนทีตอการกักเก็บน้ำ   การศกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงคเพื่อพัฒนาแนวทางในการประเมินความเสี่ยงตอ
                          ้
                             ่
                                                   ึ
               สภาวะความแหงแลง      โดยเนนถึงการนำขอมูลปริมาณน้ำฝนรายวัน    ตลอดจนลักษณะการกระจายตัวของ
               สภาพภูมประเทศ  และแหลงน้ำในพื้นที่มาวิเคราะหรวมกัน  เพอประเมนคาความเสี่ยงทางกายภาพเชิงพื้นที่ดวย
                       ิ
                                                                            ิ
                                                                      ื่
               ระบบภูมิสารสนเทศปจจัยทั้งหมดจำเปนตองมีการปรับคามาตรฐานของปจจัย    ดวยวิธีการ Fuzzy membership
                                                                                                 ี่
               function    ขอมูลที่ไดจากการปรับคามาตรฐานจะมีคาอยูระหวาง  0  -  1  โดยคา  0  หมายถึงพื้นท  ที่มีปจจัยที่ม  ี
                                                                   
               ผลตอความเสี่ยงตอสภาวะแหงแลงนอยที่สุด   ขณะที่คา  1 หมายถึง  พื้นที่ที่มีปจจัยที่มีผลตอความเสี่ยงตอสภาวะ
               แหงแลงมากที่สุด  ปจจัยที่ผานการปรับคามาตรฐานแลวจะถูกนำมาวิเคราะหเชิงซอนทับรวมกันโดยผานวิธการ
                                                                                                     ี
               หาสมการเชิงเสนถวงน้ำหนัก  (Weighted  Linear Combination)  โดยมีการกำหนดคาถวงน้ำหนักของ  แตละปจจัยดวย
                                                                                         ั
                                       ่
                                       ื
               วิธการของ  Malczewski  เพอกำหนดระดับความสำคัญของปจจัยในการประเมินโดยวิธีการจัดลำดบ  (Ranking)    จากการ
                  ี
                                                                                                      
                                                                         
                                                                                                            ิ
               เรียงลำดับความสำคัญของปจจัยตาง  ๆ  ที่ใชในการประเมน  ซึงพบวาปริมาณน้ำฝนเปนปจจัยทมีผลกระทบตอการเกด
                                                              ิ
                                                                                             ี่
                                                                    ่
               สภาวะแหงแลงของพื้นที่มากที่สุด  รองลงมาเปนปจจัยที่มีความสัมพันธโดยตรงกบปริมาณน้ำฝนที่ตกในพื้นท  คือ
                                                                                  ั
                                                                                                        ี่
               คาดัชนีความเปยกของพื้นที่    และความจุความชื้นที่เปนประโยชนของดิน  ปจจัยทางกายภาพ  เชน  ระยะหางจาก
                                                                      ั
                                                        ี
                                                                 
               แหลงน้ำผิวดิน  และความหนาแนนของทางน้ำ  มผลกระทบตอระดบความแหงแลงของพื้นที่พอสมควร  สวนปจจัยที ่
                                                                                 
   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42