Page 32 - พื้นที่แล้งซ้ำซากภาคตะวันออก
P. 32
23
่
ี
ี
แมน้ำทมีกิจกรรมการเพาะปลูกตามแน วริมฝงแมน้ำ สวนใหญ ไดแก แมน้ำท่ไหลออกอาวไทย
ิ
ดานทศใตของพื้นที่ลุมน้ำ เชน แมน้ำระยอง แมน้ำประแสร แมน้ำจันทบุรี และแมน้ำตราด สวนแมน้ำทไหลออกอาว
่
ี
ั
ไทยทางดานทิศตะวันตกบริเวณอาวบางแสน อาวพทยา เชน คลองนาเกลือ และคลองบางละมุง ปจจุบันมีกิจกรรมการ
เพาะปลูกไมมากนัก เพราะพนที่สวนใหญไดถูกพัฒนาเปนชุมชนเมืองและโรงงานอุตสาหกรรม และไมมีการนําน้ำใน
ื้
คลองมาใชประโยชน เนื่องจากคุณภาพน้ำคอนขางเสื่อมโทรมดังนั้น ปญหาน้ำเค็มรุกล้ำจึงมีนอย
2.6 ทรัพยากรปาไม
ั
ภาคตะวนออกสวนใหญเปนปาดงดิบ ปาดบเขา ปาสนเขา ปาชายเลน และปาเบญจพรรณ ในป พ.ศ. 2561
ิ
มีพื้นที่ปาไม 4.82 ลานไร คิดเปนรอยละ 22.47 ของพื้นที่ภาค โดยจังหวดที่มีพื้นที่ปามากที่สุด คือ ปราจีนบุรี สวน
ั
ี
จังหวัดที่มพืนที่ปานอยที่สุดคือ จังหวัดชลบุรี
้
2.7 สภาพการใชที่ดิน
ื้
ี่
สภาพการใชที่ดินในบริเวณพนทภาคตะวนออก แยกรายละเอยดเปนแตละกลุม มีดังนี้
ั
ี
ี่
ั
ิ
กลุมท 1: สภาพการใชทีดนเปนหลก
่
การใชประโยชนที่ดินหลัก สามารถเรียงลําดับประเภทการใชที่ดินจากที่มีพื้นที่มากสุดไปยังพนทนอยสุด
ื้
ี
่
้
ั
ิ
ี
้
่
โดยคดเปนรอยละของพื้นทภาคตะวนออกทังหมดไดดังนี้ พื้นที่เกษตรกรรม 61.35 พืนทปาไม 22.47 พื้นที่ชุมชนและสิ่ง
ี่
ปลูกสราง 9.44 พื้นทีอืน ๆ 3.60 และพื้นที่แหลงน้ำ 3.14
่
่
ี่
พื้นที่การใชประโยชนทดินเปนหลัก แบงออกเปน 5 ประเภท:
่
ี
ี
่
ประเภทที่ 1: พืนทชุมชนและสิ่งปลูกสราง เชน ทีอยูอาศัย ตัวเมืองและยานการคา สถานทราชการ
่
้
และเขตอุตสาหกรรม
ประเภทที่ 2: พื้นทเกษตรกรรม เชน นาขาว พชไร ไมยืนตน ไมผล
ี่
ื
่
ี
ื้
ประเภทที่ 3: พนทปาไม
ประเภทที่ 4: พื้นที่แหลงน้ำ เชน ทางน้ำ หนองน้ำ อางเกบน้ำ
็
ื
้
่
่
ประเภทที 5 : พนทเบ็ดเตล็ด
ี
ิ
กลุมที่ 2: พื้นที่การใชประโยชนที่ดนดานเกษตรกรรม
การใชประโยชนทดินเฉพาะในดานเกษตรกรรม สามารถเรียงลาดบชนิดของการใชประโยชนที่ดินจากที่ม ี
ั
ํ
ี่
พืนที่มากสุดไปยังที่มีพื้นที่นอยสุด โดยคิดเปนรอยละของพื้นทเกษตรกรรมทงหมด ไดดังนี้ ไมยืนตน 24.04 พืชไร 13.00
้
ั
ี่
้
ั
ื
่
นาขาว 10.93 ไมผล 8.81 และการเกษตรดานอน ๆ 4.57 ตามลำดบ