Page 39 - พื้นที่แล้งซ้ำซากภาคตะวันออก
P. 39
30
ี่
ตาก ซึ่งจะทำการจำแนกชั้นความเสี่ยงโดยใชวิธีการทางสถิติ โดยมีปจจัยทใชในการวเคราะห ไดแก ปริมาณน้ำฝนรายป
ิ
จำนวนวันที่ฝนตก เขตชลประทานและแหลงน้ำ แหลงน้ำใตดิน พืชปกคลุมดิน เนื้อดิน (สภาพการระบายน้ำ)
ความลาดชัน ความหนาแนนของลำน้ำในลุมน้ำยอย และขนาดของพื้นที่ลุมน้ำยอย โดยมีการประเมินความแหงแลงดวย
ปจจัยทางอุตุนิยมวิทยา เปนการประเมินความแหงแลงโดยดัชนีปริมาณน้ำฝน การประเมินความแหงแลงดวยปจจัยทาง
ิ
อุทกวิทยา เปนการประเมินความแหงแลงโดยดัชนีระดับน้ำใตดิน การประเมนความแหงแลงดวยดัชนีความสมบูรณของ
พืชพรรณ เปนคาความสัมพันธระหวาง คาดัชนีวัดของพืชพรรณ และคาดัชนีความแตกตางของพชพรรณ ทั้งนี้การ
ื
ี่
ั้
ิ
ประเมนความแหงแลงทง 4 ประเภท นำมาจำแนกระดับความเสี่ยงตอการเกิดภัยแลงเชิงพื้นทโดยใชคาเฉลี่ย (x̄) และ
คาเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) โดยแบงระดับความเสี่ยงออกเปน 4 ระดับ ไดแก ไมเสี่ยงภัย เสี่ยงภัยระดบตำ เสี่ยงภัย
่
ั
ระดบปานกลาง และเสี่ยงภัยระดับสูง ผลการศึกษาพบวา พื้นที่ที่มีพื้นที่เสี่ยงภัยแลงระดับสูงอยูในอำเภอเมืองตาก
ั
ั
อำเภอสามเงา อำเภอพบพระ อำเภอแมสอด อำเภอแมระมาด อำเภอบานตาก และอำเภอวงเจา
อมเรศ (2546) ศึกษาเรื่องสภาพความแหงแลงในลุมน้ำยม โดยเริ่มจากการตรวจสอบสภาพความแหงแลงที่ผานมา
ุ
ี
คนหาสาเหต และความรุนแรงของสภาพความแหงแลงในแตละพื้นที่ โดยยึดหลักปริมาณน้ำที่มในพื้นที่โดยสภาพธรรมชาต ิ
ิ
ี
คือ น้ำฝน และน้ำทาเทยบกับการใชน้ำในกจกรรมตาง ๆ ในแตละพื้นที่แลวกำหนดดัชนีวัดความแหงแลงในแตละพื้นท ี่
ลุมน้ำยม ลุมน้ำยมตอนลางในแมน้ำยมสายหลักจะประสบปญหาขาดแคลนน้ำ โดยเฉลี่ยเกือบทุกป และในรอบ 5 - 6 ป จะ
้
่
่
ี
รุนแรงมากครั้งหนึ่งสวนพืนททีอยูไกลจากแมน้ำก็ประสบปญหาภัยแลงในชวงตนฤดูฝน และในฤดูแลง เนื่องจากปริมาณ
ฝนในชวงฤดูแลงมีคานอยมาก สวนในพื้นที่ลุมน้ำยมตอนบนประสบปญหาความแหงแลงนอยกวาตอนลาง เนื่องจาก
ปริมาณฝนโดยรวมสูงกวาพื้นที่อื่น ๆ และการใชน้ำยังอยูในเกณฑต่ำ สวนน้ำอปโภคบริโภคขาดแคลนมากในชวงฤดูแลง
ุ
ุ
เกอบทกพื้นที่ของลุมน้ำยม แตจะขาดแคลนน้ำในพื้นที่จังหวัดสุโขทัยและจังหวัดแพร นอกจากนี้ยังพบวา ในรอบ 40 ปที ่
ื
ั
ผานมา ลุมน้ำยมมีแนวโนมของฝนรายปลดลง 1 - 14 มิลลิเมตรตอป และปริมาณน้ำทาในฤดูแลงลดลง ตามลำดบ
ี
เนื่องจากมการใชน้ำเพิมขึ้นอยางตอเนือง
่
่
3.6 พื้นที่แลงซ้ำซาก
ิ
การวเคราะหขอมล และปจจัยทเกี่ยวของดวยวิธีการถวงคาน้ำหนักในแตละปจจัย ดวยระบบสารสนเทศ
ู
ี่
ิ
ี่
ภูมิศาสตร เพอกำหนดขอบเขตพื้นทประสบภัยแลงซ้ำซาก ซึงปจจัยทีใชในการวเคราะหและกำหนดขอบเขต
ื
่
่
่
ี่
ื้
ประกอบดวย ขอมูลเชิงพนท (Spatial Data) ขอมูลสถิติ (Statistic Data) ไดแก ขอมูลปริมาณน้ำฝนรวมรายป
ิ
ขอมูลความตองการน้ำของพช ความสามารถในการอุมน้ำของดน พนที่ชลประทาน แหลงน้ำใตดิน สภาพการใช
ื
ื้
ประโยชนที่ดน ความลาดเทของพนที่ ขอมูลประวตการเกิดภัยแลงในประเทศไทย และระบบสารสนเทศภูมศาสตร
ั
ิ
ิ
ิ
ื้
เพื่อการวิเคราะหพื้นที่เสี่ยงตอความแหงแลง ทำการวเคราะหขอมลดวยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร และวิเคราะห
ู
ิ
้
ื
ื้
ตามน้ำหนักตัวแปร พรอมกับขอมูลการสำรวจในพื้นที่จริง เพื่อกำหนดพนทแลงซ้ำซาก สามารถแบงระดบพนที ่
ี่
ั
้
ั
่
แลงซำซากไดเปน 3 ระดบ และจัดทำเปนแผนทีแสดงพื้นที่แลงซ้ำซากรายภาค และรายจังหวัด โดยพื้นที่เปาหมาย
ั
ภาคตะวนออก 7 จังหวัด คือ จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด ปราจีนบุรี ระยอง และสระแกวพบวามีเนื้อท ี่
แลงซ้ำซากทั้งหมด 2,890,554 ไร คิดเปนรอยละ 13.45 ของพื้นที่ภาคตะวันออก และสามารถแบงออกเปน 3 ระดับ ดังนี้