Page 57 - พื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
P. 57
48
3.6 พื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมซ้ำซาก
จากการวิเคราะห์ข้อมูลโดยการนำแผนที่การใช้ประโยชน์ที่ดินระดับจังหวัด ปี พ.ศ. 2562
ซ้อนทับกับแผนที่น้ำท่วมซ้ำซากของภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ พบว่า
ื้
มีพนที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบและความเสียหายจากปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากจำนวน 4,195,656 ไร่
ื้
หรือคิดเป็นร้อยละ 3.98 ของพนที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยพนที่การเกษตรบริเวณที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก
ื้
้
ื้
มีการเพาะปลูกขาวเป็นหลัก โดยมีพนที่เพาะปลูกข้าวที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมซ้ำซาก
3,188,489 ไร่ รองลงมาได้แก่ พื้นที่ปลูกไม้ยืนต้น 117,153 ไร่ และพืชไร่ 109,712 ไร่
โดยจังหวัดที่มีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายและผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา
ื้
็
ื้
มีพนที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจำนวน 647,637 ไร่ รองลงมาได้แก่ จังหวัดร้อยเอด มีพนที่ที่คาดว่า
ื้
จะได้รับผลกระทบจำนวน 500,808 ไร่ และจังหวัดศรีสะเกษ มีพนที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจำนวน
374,369 ไร่ ตามลำดับ ทั้งนี้การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก เป็นการนำฐานข้อมูล ปัจจัยต่าง ๆ
ที่มีอยู่มาใช้วิเคราะห์หาความสัมพนธ์ร่วมกัน ซึ่งอาจมีการคลาดเคลื่อนได้ ซึ่งการคลาดเคลื่อนอาจเกิดจาก
ั
ื้
การแปรปรวนของสภาพอากาศในแต่ละปี สภาพพนที่ที่เปลี่ยนไป ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องมีการสุ่มสำรวจ
ภาคสนาม เพอตรวจสอบและปรับแก้ไขข้อมูลอกครั้งหนึ่ง เพอความถูกต้องของข้อมูล ซึ่งจากการสำรวจ
ื่
ี
ื่
ื้
ื
พนที่เกษตรที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมซ้ำซากในภาคสนาม พบว่า พ้นที่ส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหา
น้ำท่วมซ้ำซากเป็นพนที่เพาะปลูกข้าว และพนที่ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น โดยเกษตรกรส่วนใหญ่ปลูกข้าว
ื้
ื้
ั
ั
ั
ขาวดอกมะลิ 105 และข้าวพนธุ์ กข6 ซึ่งเป็นพนธุ์ข้าวเหนียวหอม ไวต่อช่วงแสง ซึ่งเป็นพนธุ์ข้าวเหนียว
ที่ได้รับการปรับปรุงพนธุ์ข้าวเจ้าพนธุ์ขาวดอกมะลิ 105 ซึ่งเกษตรกรในพนที่จะเริ่มเพาะปลูกข้าวในช่วง
ื้
ั
ั
ื้
เดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน ส่วนช่วงที่มีน้ำท่วมขังในพนที่การเกษตรจะประมาณช่วงเดือนสิงหาคมถึง
ตุลาคมของทุกปี โดยท่วมขังบริเวณที่เป็นพนที่ลุ่ม โดยมีช่วงระยะเวลาของการท่วมขังประมาณ 10 - 30 วัน
ื้
ที่ระดับความลึก 30 - 50 เซนติเมตร ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับพนที่การเกษตร โดยพชไร่ที่ได้รับ
ื้
ื
ผลกระทบ ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ออยโรงงาน และมันสำปะหลัง ส่วนไม้ยืนต้นที่ได้รับผลกระทบ
้
่
ได้แก่ ยางพารา ยูคาลิปตัส และปาล์มน้ำมัน เป็นส่วนใหญ่ และไม้ผลที่ได้รับผลกระทบ ได้แก ไม้ผลผสม
มะม่วง และมะม่วงหิมพานต์ ซึ่งสาเหตุของการท่วมซึ่งเกิดจากปริมาณฝนที่ตกหนักมาก และต่อเนื่องเป็น
่
ระยะเวลานาน ทำให้เกิดน้ำท่วมแบบฉับพลัน และปริมาณน้ำมากจนเออล้นตลิ่งแมน้ำ ซึ่งทำให้สภาพน้ำท่า
่
ื
เกินความจุของลำน้ำ น้ำจึงไหลบ่าเข้าท่วมพ้นที่การเกษตร ทำให้พืชเศรษฐกิจได้รับความเสียหาย
(ตารางที่ 3.3 และภาพที่ 3.24)