Page 26 - Management_agricultural_drought_2561
P. 26

20



                            4)  แหลงน้ําในภาคตะวันออก
                                แหลงน้ําในภาคตะวันออก มีแมน้ําที่สําคัญ คือ

                                แมน้ําบางปะกง  ตนกําเนิดจากแมน้ําหนุมานและแมน้ําพระปรง  ไหลมารวมกันที่อําเภอ
               กบินทรบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ในตอนนี้เรียกวาแมน้ําปราจีนบุรี และเมื่อผานจังหวัดฉะเชิงเทราจึงเรียกวาแมน้ํา
               บางปะกง ไหลไปสูอาวไทยที่อําเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา
                                แมน้ําประแสร ตนน้ํา เกิดจากเขาสอยดาว อําเภอทาใหม จังหวัดจันทบุรีไหลไปทางทิศ

               ตะวันตกเฉียงใตลงสูอาวไทยที่จังหวัดระยอง
                                แมน้ําระยอง ตนน้ําเกิดจากเขาเรือแตก อําเภอบานบึง จังหวัดชลบุรี ไหลผานเขาไปใน
               เขตจังหวัดระยอง ผานอําเภอบานคาย ลงสูอาวไทยที่อําเภอเมืองระยอง
                            5)  แหลงน้ําในภาคใต

                                แหลงน้ําในภาคใต จากลักษณะภูมิประเทศที่มีทิวเขาอยูในแนวเหนือ-ใต และมีที่ราบใกล
               ทะเลเปนแหงๆ ทั้งทางดานตะวันออกและทางดานตะวันตกของทิวเขาตะนาวศรี โดยมีที่ราบลุมใหญอยูในเขต
               จังหวัดสุราษฎรธานีและจังหวัดนครศรีธรรมราชบางสวน ทางดานตะวันออก มีความลาดชันนอยกวาทางดาน
               ตะวันตกอันเปนที่ตั้งของจังหวัดระนอง กระบี่ พังงา ภูเก็ต ตรัง และสตูล โดยทิวเขาเหลานี้จะเปนแหลงกําเนิด

               ของแมน้ําลําธารทั้งสายใหญและสายสั้นๆ คือ
                                แมน้ําทาตะเภา ตนน้ําเกิดจากคลองทาแซะและคลองรับรอไหลมารวมกันในเขตอําเภอทา
               แซะ จังหวัดชุมพร คลองทาแซะนั้นตนน้ําอยูในเขตอําเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ สวนคลองรับรอ

               นั้นเกิดจากทิวเขาตะนาวศรี แมน้ําทาตะเภาไหลผานจังหวัดชุมพรไปสูอาวไทย
                                แมน้ํากระบุรี  หรือบางแหงเรียกวา  แมน้ําปากจั่น  ตนน้ําเกิดจากคลองหั่นกะเดียงและ
               คลองกระเนย  ไหลมารวมกันในเขตอําเภอกระบุรี  จังหวัดระนอง  และไหลไปลงทะเลอันดามันในเขตอําเภอ
               เมืองระนอง แมน้ําสายนี้เปนเสนแบงเขตพรมแดนระหวางประเทศไทยกับสหภาพพมาดวย
                                แมน้ําหลังสวน  ตนน้ําเกิดจากภูเขาในอําเภอกะเปอร  จังหวัดระนอง  ไหลไปสูอาวไทยที่

               อําเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร มีความยาวประมาณ 100 กิโลเมตร
                                แมน้ําคีรีรัฐ ตนกําเนิดจากเขานมสาวกับเขาสก เขตอําเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎรธานี
               และไหลไปลงแมน้ําตาปทางฝงซายทางทิศตะวันตกของอําเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎรธานี แมน้ําคีรีรัฐนี้มีชื่อ

               อีกชื่อหนึ่งเรียกวา แมน้ําพุมดวง
                                แมน้ําตาป  ตนน้ําเกิดจากเขาใหญหรือเขาหลวงซึ่งเปนสวนหนึ่งของเทือกเขาบรรทัดใน
               อําเภอทุงใหญ  จังหวัดนครศรีธรรมราช  ผานอําเภอฉวางเขาเขตจังหวัดสุราษฎรธานี  มีแมน้ําคีรีรัฐไหลมา
               บรรจบและไหลลงสูอาวไทยที่อําเภอเมืองสุราษฎรธานี แมน้ํานี้เดิมเรียกวาแมน้ําหลวงไดเปลี่ยนมาเรียกชื่อเปน

               แมน้ําตาป เมื่อตั้งจังหวัดสุราษฎรธานี ใน ป พ.ศ.2485 และตอนที่แมน้ํานี้จะไหลออกสูทะเลเรียกกันวา แมน้ํา
               บานดอน
                                แมน้ําตรัง ตนน้ําเกิดจากเทือกเขาบรรทัดในเขตอําเภอทุงสง จังหวัดนครศรีธรรมราชและ
               เทือกเขาบางสวนในเขตจังหวัดกระบี่ ไหลผานเขาสูจังหวัดตรังลงสูทะเลในเขตอําเภอกันตังอันเปนเมืองทาเรือ

               ที่สําคัญแหงหนึ่งในภาคใต มีความยาวตลอดลําน้ําประมาณ 123 กิโลเมตร
                                แมน้ําปตตานี ตนน้ําอยูในเทือกเขาสันกาลาคีรีกั้นพรมแดนไทยกับสหพันธรัฐมาเลเซียใน
               เขตอําเภอเบตง  จังหวัดยะลา  เปนแมน้ําที่ไหลผานอําเภอธารโต  อําเภอบันนังสตา และอําเภอเมืองยะลา
               จังหวัดยะลา และไหลผานจังหวัดปตตานีที่อําเภอยะรัง จนกระทั่งออกสูอาวไทย ที่อําเภอเมืองปตตานี จังหวัด

               ปตตานี มีความยาวตลอดลําน้ําประมาณ 120 กิโลเมตร
   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31