Page 49 - น้ำท่วมซ้ำซาก 7 จังหวัดภาคเหนือ ปรับปรุงปี2557
P. 49
37
5.4.10 การพยากรณ์และการเตือนภัยน้้าท่วมทั้งก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย และภายหลังการเกิดภัย
ทั้งนี้ต้องติดตั้งระบบ Real Time Operation เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์ ณ เวลาจริง รวมทั้งใช้
ระบบ GIS และข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมรายละเอียดสูงมาช่วยในการแสดงขอบเขตและระดับความลึก
ของพื้นที่น้้าท่วม รวมทั้งติดตั้งระบบสื่อสารจาก Operating room ของลุ่มน้้าใหญ่ไปลุ่มน้้าย่อย เพื่อกระจาย
ข่าวที่ทันเหตุการณ์ และติดตั้งเครื่องรับวิทยุประจ้าหมู่บ้านเพื่อรับฟังข่าวในสภาวะเตือนภัยและฉุกเฉิน
5.4.11 การปรับตัวในการเพาะปลูกข้าวโดยเน้นข้าวนาปรังเป็นหลักท้าให้สามารถท้าการเพาะปลูกได้
2 ครั้งต่อปี ทั้งนี้การปลูกข้าวครั้งที่ 1 จะเริ่มหลังจากที่ปริมาณน้้าลดลงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน/ธันวาคมจนถึง
เดือนมีนาคม/เมษายน หลังจากนั้นจะท้านาครั้งที่ 2 ทันที เป็นต้น
5.4.12 การปรับเปลี่ยนพื้นที่วิฤตน้้าท่วมซ้้าซากให้เป็นพื้นที่พัฒนาเพื่อกิจกรรมการใช้ประโยชน์
เฉพาะอย่าง โดยเฉพาะพื้นที่การเกษตรที่ประสบปัญหาดังกล่าวควรพัฒนาเป็นพื้นที่ท้าการเพาะเลี้ยงสัตว์น้้า
ทั้งนี้ภาครัฐจะต้องเข้าไปพัฒนาระบบ ส่งเสริมและให้ความรู้ในกิจกรรมใหม่ๆ ตลอดจนให้ประชาชนหรือ
องค์กรในท้องถิ่นร่วมบริหารจัดการทรัพยากรด้วย
5.5 มาตรการการใช้ประโยชน์ที่ดินในบริเวณพื นที่น ้าท่วมซ ้าซาก
5.5.1 พื้นที่น้้าท่วมซ้้าซากเป็นประจ้าโดยประสบน้้าท่วมขัง 8-10 ครั้ง ในรอบ 10 ปี และมีความเสี่ยงสูง
ต่อการลงทุนพัฒนาทางการเกษตร เนื่องจากพื้นที่มีสภาพเป็นที่ราบเรียบถึงเกือบราบเรียบ มีน้้าแช่ขังประมาณ
4-5 เดือนในรอบปี ดังนั้นมาตรการในการจัดการพื้นที่ดังกล่าวจึงควรมีการศึกษาการเกิดน้้าท่วม ช่วงของ
การเกิดน้้าท่วม และปริมาณการเกิดน้้าท่วมในแต่ละครั้ง เพื่อก้าหนดรูปแบบ ช่วงการเพาะปลูกและระบบ
การเพาะปลูกพืชให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และช่วงเวลาการเกิดน้้าท่วมเพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
ร่วมกับการปลูกหญ้าแฝกเพื่อช่วยในการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและใช้เป็นแนวก้าแพงธรรมชาติป้องกัน
น้้าท่วม
5.5.2 พื้นที่น้้าท่วมซ้้าซากเป็นประจ้าโดยประสบน้้าท่วมขัง 4-7 ครั้งในรอบ 10 ปี และเสี่ยงปานกลาง
ต่อการลงทุนพัฒนาทางการเกษตร เนื่องจากพื้นที่มีสภาพราบเรียบเกือบราบเรียบถึงค่อนข้างราบเรียบ มีน้้า
แช่ขังประมาณ 4-5 เดือนในรอบปี เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเสี่ยงต่อการลงทุนในการพัฒนาการเกษตรปานกลาง
ดังนั้นจึงควรเร่งพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวโดยการ ก้าหนดรูปแบบและระบบการเพาะปลูกพืชให้เหมาะสมกับ
สภาพพื้นที่ ศึกษาและคัดเลือกพันธุ์พืช การปรับปรุงบ้ารุงดินร่วมกับการปลูกหญ้าแฝกเพื่อช่วยในการป้องกัน
การชะล้างพังทลายของดินและใช้เป็นแนวก้าแพงธรรมชาติป้องกันน้้าท่วม
5.5.3 พื้นที่น้้าท่วมซ้้าซากเป็นประจ้าโดยประสบน้้าท่วมขังไม่เกิน 3 ครั้งในรอบ 10 ปี สภาพพื้นที่
เป็นที่ราบเรียบ เกือบราบเรียบถึงค่อนข้างราบเรียบ มีน้้าแช่งขังประมาณ 4-5 เดือนในรอบปี และมีความเสี่ยง
ต่้าต่อการลงทุนพัฒนาทางการเกษตร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นนาข้าว ดังนั้นจึงควรมีมาตรการเร่งรัดเพื่อจัดการพื้นที่
ดังกล่าวโดยด่วน เช่น ศึกษาพฤติกรรมการเกิดน้้าท่วมและปริมาณน้้าที่ท่วมในแต่ละครั้ง ก้าหนดรูปแบบและ
ระบบการเพาะปลูกพืชให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ปรับเปลี่ยนโครงสร้างและระบบการผลิตการเกษตรเพื่อให้
เป็นการเกษตรแบบผสมผสานร่วมกับการอนุรักษ์และปรับปรุงบ้ารุงดิน และการปลูกหญ้าแฝกเพื่อช่วย
ในการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและใช้เป็นแนวก้าแพงธรรมชาติป้องกันน้้าท่วม