Page 11 - น้ำท่วมซ้ำซาก 7 จังหวัดภาคเหนือ ปรับปรุงปี2557
P. 11
3
1.5.3 การน้าเข้าข้อมูล น้าเข้าข้อมูลเชิงพื้นที่ (Spatial data) และปัจจัยร่วมโดยท้าการเก็บข้อมูล
ในรูป Digital โดยใช้โปรแกรม ArcGIS และ ArcView พิกัดอ้างอิงที่ใช้น้าเข้าข้อมูลใช้โครงสร้างแผนที่
แบบ Universal Transverse Mercator (UTM) ซึ่งเป็นไปตามแผนที่ภูมิปะเทศของกรมแผนที่ทหาร
1.5.4 การวิเคราะห์พื้นที่น้้าท่วมซ้้าซากด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) โดยวิธีการซ้อนทับ
ข้อมูลหลายชั้น พร้อมด้วยเงื่อนไขตามที่ได้ก้าหนดไว้ โดยวิธีการก้าหนดค่าถ่วงน้้าหนักในแต่ละปัจจัย
ที่มีความสัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องในการท้าให้เกิดน้้าท่วมซ้้าซาก โดยให้น้้าหนักเรียงล้าดับตามความส้าคัญ
จากมากไปน้อยร่วมกับการใช้ข้อมูลการส้ารวจข้อมูลระยะไกล ซึ่งปัจจัยที่ใช้ในการวิเคราะห์และก้าหนด
ขอบเขต ประกอบด้วย ข้อมูลเชิงพื้นที่ (Spatial data) ข้อมูลสถิติ (Statistic data) และข้อมูลภาพถ่าย
ดาวเทียม ได้แก่ พื้นที่น้้าท่วมจากภาพถ่ายดาวเทียมในช่วงฤดูฝนในแต่ละปี ลักษณะภูมิสัณฐาน ข้อมูลพื้นที่
ราบน้้าท่วมถึง (Floodplain) ข้อมูลประวัติการเกิดอุทกภัยในประเทศไทย ข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัยน้้าท่วม และ
พื้นที่น้้าท่วมในอดีตที่ด้าเนินการโดยหน่วยงานต่างๆ
1.5.5 ส้ารวจข้อมูลภาคสนามโดยการสุ่มตรวจสอบในสภาพพื้นที่จริงเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของ
ข้อมูลและปรับแก้ไขข้อมูลเชิงพื้นที่
1.5.6 การจัดท้าแผนที่แสดงขอบเขตพื้นที่น้้าท่วมซ้้าซากจ้าแนกตามชั้นพื้นที่น้้าท่วมซ้้าซากของประเทศไทย
1.5.7 เสนอแนะมาตรการหรือแนวทางการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่น้้าท่วมซ้้าซาก
1.6 ประโยชน์ที่ได้รับ
1.6.1 สามารถก้าหนดขอบเขตชั้นพื้นที่น้้าท่วมซ้้าซากพร้อมจัดท้าฐานข้อมูลการเกิดน้้าท่วมในอดีต
ของประเทศไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
1.6.2 ระดับชั้นของพื้นที่น้้าท่วมซ้้าซาก สามารถใช้คาดการณ์พื้นที่น้้าท่วมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ท้าให้
สามารถจัดเตรียมการเตือนภัยล่วงหน้าได้ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบและความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการท้า
การเกษตรในพื้นที่
1.6.3 ขอบเขตพื้นที่น้้าท่วมซ้้าซากสามารถใช้เป็นฐานข้อมูลในการวางแผนพัฒนาบริหารจัดการพื้นที่
น้้าท่วมซ้้าซาก และการเตือนภัยแก่เกษตรกรในการวางแผนเพาะปลูกพืช และการเก็บเกี่ยวผลผลิตล่วงหน้า
ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบและลดความสูญเสียแก่ผลผลิตที่อาจจะเกิดขึ้นจากอุทกภัย