Page 83 - การจัดทำฐานข้อมูลและวางแผนพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยลุ่มน้ำปิง
P. 83

74



                                                                                        ่
                                        ั
                                                       ื
                                                       ่
                                                                                  
                                     ั
                          ี่
                                                           ี
                       ื้
                                                                                ิ
                                                   ิ
                   เชิงพนทใหเหมาะสมกบศกยภาพของดน เพอใหมการใชทรัพยากรธรรมชาตไดอยางยังยืนและลดผลกระทบ
                   ตอสิ่งแวดลอม การบริหารจัดการทดินใหเกิดประโยชนสอดคลองกบศักยภาพและใหผลตอบแทน
                                                                               ั
                                                   ี
                                                   ่
                   ทเหมาะสม เปนการพฒนาอยางเปนระบบ เพอเพ่มประสิทธิภาพและลดตนทุนการผลิต สรางมลคาเพ่ม
                                                          ่
                                                          ื
                                      ั
                     ่
                     ี
                                                                                                   ู
                                                             ิ
                                                                                                         ิ
                   ใหกับสินคาเกษตร ทั้งนี้เพื่อรักษาดุลยภาพในดานการสรางความมั่นคงทางรายไดใหเกษตรกร
                              พื้นที่น้ำทวมซ้ำซาก
                                                                                       ้
                              1) พ้นท่น้ำทวมซ้ำซากครังคราวโดยประสบน้ำทวมขังไมเกิน 3 ครังในรอบ 10 ป และม ี
                                  ื
                                     ี
                                                    ้
                                                                                   ี
                                                                     ื
                                                                        ี
                                        ุ
                   ความเสี่ยงสูงตอการลงทนพัฒนาทางการเกษตรเนื่องจากพ้นท่มีสภาพเปนท่ราบเรียบถึงเกือบราบเรียบ
                                
                                                                                ื
                                                          ้
                                                                                   ี
                            ั
                                                                                                 ี
                   มน้ำทวมขงประมาณ 5 - 10 วันในรอบป ดังนันมาตรการในการจัดการพ้นท่ดงกลาว จึงควรมการศึกษา
                    ี
                                                                                    ั
                   การเกิดน้ำทวม ชวงของการเกิดน้ำทวม และปริมาณการเกิดน้ำทวมในแตละครั้ง เพอกำหนดรูปแบบ
                                                   
                              
                                                                                           ื
                                                                           
                                                                                           ่
                                            ิ
                   การปลูกขาวในเดือนท่จะเกดน้ำทวม ชวงการเพาะปลูกและระบบการเพาะปลูกพชใหเหมาะสม
                                                                                             ื
                                        ี
                                                                         ี่
                                               ิ
                               ี่
                   กับสภาพพื้นทและชวงเวลาการเกดน้ำทวมเพื่อลดความเสียหายทจะเกิดขึ้น เชน การเปลี่ยนมาใชพนธุขาว
                                                                                                    ั
                                                    
                                         ั
                                                                     ี่
                                                    ้
                     ี
                         
                                                                               ั
                                                                                               ื
                                                                                               ่
                     ่
                              
                   ททนตอน้ำทวม การใชพนธุขาวอายุสันในการทำนาครั้งท 2 การใชพนธุขาวอายุยาวเพอปลูกครอม
                                              ี
                                                                                    ่
                                                                                                        ้
                                                                          ้
                                                                                                        ึ
                                         
                   ในชวงน้ำทวม การใชพันธุขาวทใหผลผลิตมากในชวงการทำนาครังท 1 การเลือนปลูกขาวนาปใหเร็วขน
                                                                            ่
                                              ่
                                                                            ี
                                                              ี
                   การเปลี่ยนมาทำนาดำเนื่องจากตนขาวจะมีลำตนท่สูงกวาการทำนาหวาน รวมถงการเปลี่ยนมาปลูกพช
                                                                                      ึ
                                                                                                         ื
                   อยางอน เกษตรกรควรมีการปรับตัวใหเหมาะสมกับสภาพพนการเกิดน้ำทวม เชน มการปรับเปลียนระบบ
                                                                                        ี
                         ื่
                                                                                                  ่
                                                                    ื้
                   การผลิตหลักจากเดิมทเคยใชทดินเพอทำนาอยางเดียวมาเปนการผลิตอยางอนดวย โดยเฉพาะการทำไรนา
                                                                                  ื่
                                                 ื่
                                            ี่
                                      ี่
                   สวนผสม
                                                                           ั
                                                        ้
                                                                                     ้
                                     ี
                                             ้
                                  ื
                              2) พ้นทน้ำทวมซำซากบอยครัง โดยประสบน้ำทวมขง 4 - 7 ครังในรอบ 10 ป และเสี่ยง
                                     ่
                                                                                                  ึ
                                                                                      ื
                                                                   ื
                                                                     ี
                                                                       ี
                   ปานกลางตอการลงทุนพัฒนาทางการเกษตร เนื่องจากพ้นท่มสภาพราบเรียบเกอบราบเรียบถงคอนขาง
                                                                                                        
                                                                                                    
                                                                                                       ื
                                                                      
                                                                                                       ้
                                                                                   ั
                                                                                                 ั
                   ราบเรียบ มน้ำแชขังประมาณ 15 - 30 วันในรอบป บางปทวมถง 2 ครั้ง ดงนั้นจึงควรเรงพฒนาพนที ่
                             ี
                                                                          ึ
                   ดังกลาว โดยกำหนดรูปแบบและระบบการเพาะปลูกพชใหเหมาะสมกับสภาพพนท เชน การเปลียนมาใช
                                                                ื
                                                                                        ่
                                                                                                   ่
                                                                                        ี
                                                                                     ื
                                                                                     ้
                                 
                                                                                           ั
                                                                                 ี่
                                                                                                
                                                                                              
                         
                             ี
                   พันธุขาวท่ทนตอน้ำทวม การใชพนธุขาวอายุสั้นในการทำนาครั้งท 2 การใชพนธุขาวอายุยาว
                       
                                                       
                                                  ั
                   เพ่อปลูกครอมในชวงน้ำทวม การใชพนธุขาวท่ใหผลผลิตมากในชวงการทำนาครั้งท่ 1 การเลือนปลูกขาว
                                                          ี
                                                     
                                                                                                ่
                                                      
                                         
                                                                                        ี
                     ื
                                                  ั
                                                                                                        
                              ้
                                                              
                                                                           
                                                                              ่
                              ึ
                                                                              ี
                                                                 
                                       ่
                                                                       ี
                   นาปใหเร็วขน การเปลียนมาทำนาดำเนืองจากตนขาวจะมลำตนทสูงกวาการทำนาหวาน เปนตน
                                                       ่
                   รวมถึงการเปลี่ยนมาปลูกพืชอยางอื่นเพื่อเปนรายได
                              พื้นที่การชะลางพังทลายดิน
                                                                                  ั
                                                                      ั
                                                      ิ
                                                                                                      ึ
                              แนวทางการจัดการอนุรักษดนและน้ำเพอปองกนการชะลางพงทลายของดน ไดมการศกษา
                                                                ่
                                                                                            ิ
                                                                                                  ี
                                                     
                                                                ื
                                         ่
                                                                     
                                                                                           ี
                     ั
                                                                                               ี
                   พฒนามาอยางยาวนาน เพอการรักษาสภาพความอดมสมบูรณของดน และเพอใหการใชท่ดินมประสิทธิภาพ
                                                            ุ
                                         ื
                                                                          ิ
                                                                                 ่
                                                                                 ื
                         ิ
                                                                  ี
                                                                         ื
                   และเกดประโยชนสูงสุด แนวทางการอนุรักษดินและน้ำ ม 2 วิธี คอ วิธีกล และวิธเกษตรกรรม
                              1) วิธีกล เปนวิธีการท่มงเนนการกอสรางสิ่งกีดขวาง ขวางความลาดชันของพ้นท่ เพ่อปองกัน
                                                  ุ
                                                                                             ื
                                                                                                ี
                                                ี
                                                                                                  ื
                                                                                              ั
                   น้ำไหลบาและการชะลางพงทลายของดน สามารถทำไดหลายวิธี เชน การปลูกพชตามแนวระดบ การไถพรวน
                                                  ิ
                                                                                   ื
                                        ั
                                                               
                                                                                              ี
                                                                                   ี
                                   ่
                                ็
                                                                                ื
                                   ี
                                                                                            ี
                                                                                         ื
                                                                                            ่
                   การปลูกและเกบเกยวพืชขนานไปตามแนวระดับขวางความลาดชันของพ้นท่ ใชในพ้นทท่มีความลาดชัน
                                                                                                       ้
                   ระหวางรอยละ 2 - 7 การสรางคันดนก้นน้ำ เปนการสรางคนดินและรองน้ำขวางความลาดชันของพนที  ่
                                                 ิ
                                                    ั
                                                                     ั
                                                                                                       ื
                                         ี
                                                                       ั
                                                                          ิ
                                                 ้
                                      ื
                     ื
                     ่
                   เพอลดความยาวของพ้นท่รับน้ำใหสันลง อยางไรก็ตามการใชคนดนก้นน้ำจะตองทำการปลูกพชตามแนว
                                                                                    
                                                                            ั
                                                                                                 ื
                   ระดับ และใชวิธีการอื่นๆ ผสมผสานไปดวย เปนตน
                                                             ุ
                              2) วิธีทางเกษตรกรรม เปนวิธีการที่มงเนนในการปองกัน โดยใชวิธีการปลูกพืช และปรับปรุง
                                                                     ั
                                 ่
                             ิ
                                                                                   
                   โครงสรางดน เพอปองการชะลางพังทลายของดิน โดยอาศยใบ ก่งกาน ลำตน และรากพืช เพือชวยลด
                                                                          ิ
                                 ื
                                                                                                  ่
                                                                                                         ื
                                 ็
                   การปะทะของเมดฝนที่ตกกระทบตอผิวหนาดินโดยตรง และเปดโอกาสใหดินดูดซบน้ำมากขึ้น การปลูกพช
                                                                                      ั
   78   79   80   81   82   83   84   85   86   87   88