Page 82 - การจัดทำฐานข้อมูลและวางแผนพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยลุ่มน้ำปิง
P. 82
73
้
่
ี
ิ
ทางธรรมชาต การใชพืนททำการเกษตรจำเปนตองมีการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ โดยใชมาตรการและความเหมาะสม
รวมกัน แบงออกเปน 2 เขตยอย ดังนี้
ี
ี่
ื
ื้
ื
1) เขตพ้นทีทำนา มีพ้นท่ 290,936 ไร หรือรอยละ 7.72 ของพนทการเกษตรในลุมน้ำปง
่
้
มีศักยภาพในการผลิตต่ำ พืนที่ไมเหมาะสมตอการทำนา ควรปรับปรุงพนทหรือเปลี่ยนชนิดพืช
ื
ี
่
้
ื
2) เขตพชไร ไมผล และไมยืนตน มพืนที 300,837 ไร หรือรอยละ 7.98 ของพนท ี่
่
ื้
ี
้
ี
่
่
การเกษตรในลุมน้ำปง เปนเขตทมศักยภาพการผลิตต่ำ ควรปรับปรุงบำรุงดิน หรือปรับเปลียนชนิดพืช
ี
ิ
่
เพื่อเพมผลผลิต
แนวทางการพฒนา
ั
พื้นที่แลงซ้ำซาก
ื
ี
ี
้
ี
้
แนวทางการจัดการพนท่เกษตรบริเวณท่มปญหาแลงซำซาก เปนแนวคิดและวิธีปฏิบัต ิ
ในการลดโอกาสที่จะไดรับผลกระทบจากภัยแลง ดังนี้
ึ้
้
ี่
ื้
1) พนทแลงซำซากตั้งแต 6 ครั้งขนไปในรอบ 10 ป ควรแนะนำใหเกษตรกรในพนทงด
ื้
ี่
หรือลดการเพาะปลูก เปนการลดความลอแหลมหรือสภาวะการเปดรับตอความเสี่ยงภัยแลง สวนใหญ
ื
เปนพนททำการเกษตรนอกเขตชลประทาน ดังนันกรณพนทดังกลาวมการปลูกพชทเปนพชอายุปเดียว
ี
ี
ี
่
ื
้
่
ี
้
ื้
ื
ี่
เชน ขาว ขาวโพด ถาไมมแหลงน้ำสำรอง ควรงดการเพาะปลูกในชวงฤดแลง สวนพชทมีอายุมากกวา
่
ี
ื
ี
ู
่
ิ
ื
ิ
ุ
ี
ิ
ิ
ิ
หนึ่งป ควรมการเพ่มอนทรียวัตถในดินเพ่อเปนการเพมชองวางในดน ทำใหดนสามารถเก็บกกน้ำไวได
ั
ึ
่
ี
ิ
่
รวมถงสรางการรับรูแกเกษตรกรในเรืองของภัยแลง เปนการเพมศกยภาพหรือขดความสามารถ
ั
้
ึ
ื
่
ู
ในการรับมอกบภัยแลง เชน ใหทราบถงพนทเสียงภัยแลงกอนทำการเพาะปลูกในฤดถัดไป มการเฝาระวัง
ี
่
ี
ั
ื
และติดตามสถานการณภัยแลงในชวงที่เกิดสภาวะแหงแลง
้
่
ี
ื
้
้
่
ิ
ื
ี
2) พนทแลงซำซาก 4 - 5 ครังในรอบ 10 ป ไมควรใชทดินในการทำการเกษตรแบบพชเดม
ื
่
ี่
ควรปรับเปลียนปลูกพชชนิดอนหรือการผลิตในรูปแบบหรือวิธีการอนทเหมาะสมกบสภาพพนทมากกวา
ื้
ื่
ี่
ื
่
ั
ั
่
ื
ี
ื
เชน ปรับเปลียนการผลิตขาวไปเปนพืชเศรษฐกิจชนิดอ่นท่เหมาะสม ใหสอดคลองกับศกยภาพของพ้นท ่ ี
ื
ื
่
ิ
รวมกบการสรางบอน้ำในไรนา ขดลอกแหลงน้ำธรรมชาต เพอใชประโยชนชวงในฤดูแลง เพอการอปโภค
ุ
ุ
่
ั
และบริโภคได
้
ี่
3) พื้นทแลงซ้ำซากไมเกิน 3 ครังในรอบ 10 ป ควรแนะนำใหเกษตรกรจัดการพื้นที่ ดังนี้
้
ิ
ื
ี
้
ี
่
ี
3.1) พืนทพืชไรและพ้นท่นาขาวท่ประสบภัยแลงซำซากไม เกน 3 ครั้งในรอบ 10 ป
ื
้
ื
ี
ู
้
ื
ี
อาจไมมความจำเปนตองปรับเปลี่ยนชนิดพช แตปญหาของพนท่เหลานีคอการขาดแคลนน้ำในชวงฤดแลง
ั
ดงนั้นเกษตรกรสามารถปลูกขาวไดตอไป หรืออาจปรับเปลียนการผลิตมาทำเกษตรผสมผสาน แตควรม ี
่
ั
ู
ื
ั
ื
ื
ิ
่
การเพมเตมดวยการปลูกพชหลังนา ไดแก การปลูกพชปุยสด เชน พชตระกลถ่ว ปอเทอง ถ่วพรา
ื
ิ
ั
ื
่
็
เพอปรับปรุงคุณภาพดน และเกบเมล็ดพนธุเพอขาย เปนการสรางรายไดกบเกษตรกร สวนการทำเกษตร
ั
ื
่
ิ
อินทรียเพอเพิ่มรายไดอกทางหนึ่ง จึงควรมีการใชปุยอินทรีย มการกอสรางบอน้ำในไรนา ขดลอกแหลงน้ำ
ี
ื่
ุ
ี
ธรรมชาติ เปนตน การเลือกปลูกพืชอายุสั้นใชน้ำนอย เชน ถั่วฝกยาว แตงกวา ถั่วเขียว และถั่วเหลือง
ื
3.2) พนทีปลูกไมผลไมยืนตน สามารถเลือกปรับระบบการปลูกพชตามศกยภาพ
ื
ั
่
้
ื
ี่
ี่
ั
ื
และปริมาณน้ำทมีในพื้นท โดยเลือกชนิดพนธุพชและชวงเวลาปลูกทเหมาะสม เกษตรกรอาจเลือกปลูกพช
ี่
อาหารสัตว เพื่อเปนรายไดเสริมใหกับครอบครัวเพิ่มขึ้น
ปญหาภัยแลง เปนปญหาท่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมอากาศ ทำใหเกิดภัยแลง
ิ
ี
ึ
่
บอยครั้งและรุนแรงมากขนสงผลกระทบตอเกษตรกรจำนวนมาก ดงนันเพอแกไขและรองรับปจจัยเสียง
้
้
่
ื
ั
ิ
ี
่
ั
ของภาคการเกษตร ควรนำแนวคดเกยวกบการบริหารจัดการเขตเกษตรเศรษฐกจ (Zoning) ในการดำเนินงาน
ิ
ึ
ี
ิ
ของกรมพัฒนาทดินในอนาคต ซ่งการบริหารจัดการเขตเกษตรเศรษฐกจ คอ รูปแบบการใชประโยชน
่
ื