Page 71 - พื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
P. 71
62
ื่
ื่
และความสูงจากระดับน้ำทะเล มาใช้วิเคราะห์ร่วมด้วย เพอเชื่อมโยงข้อมูลเข้าด้วยกัน เพอให้ข้อมูลมีความ
ื้
ี
ละเอยด และมีความถูกต้องมากที่สุด รวมถึงขนาดของพนที่ที่ใช้ในการวิเคราะห์ ยิ่งขนาดของพนที่ยิ่ง
ื้
เล็ก ปัจจัยที่ใช้ในการวิเคราะห์ก็ควรมีความละเอยดมากขึ้นด้วย เพื่อความถูกต้องของผลการวิเคราะห์
ี
4.2.2 ในการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อกำหนดพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก สิ่งจำเป็นที่สุดคือ ฐานข้อมูลต่าง ๆ
ที่เป็นตัวแปรในการวิเคราะห์ จะต้องจัดเตรียมให้อยู่ในรูปแบบของข้อมูลเชิงตัวเลขให้แล้วเสร็จ และ
เป็นมาตราส่วนเดียวกัน ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างมาก บางข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงช้า สามารถใช้วิเคราะห์ได้
หลายช่วงปี เช่น ข้อมูลด้านดิน ระบบลำน้ำ ระบบโครงข่ายถนน โดยมีการปรับปรุงฐานข้อมูลบ้าง
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง สำหรับข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ได้แก่ ข้อมูลสภาพการใช้ประโยชน์ที่ดิน
ื่
ื้
และข้อมูลปริมาณน้ำฝน ซึ่งเป็นตัวแปรหลัก ที่นำมาวิเคราะห์ เพอกำหนดพนที่น้ำท่วมซ้ำซาก
จำเป็นต้องเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมอุตุนิยมวิทยาตลอดเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลง
4.2.3 ควรมีการติดตาม วิเคราะห์สาเหตุ ประเมินสถานการณ์ การสำรวจข้อมูลความเสียหาย
และพนที่การเกษตรที่รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมในแต่ละปี ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีการเก็บบันทึกข้อมูล
ื้
สถิติการเกิดอุทกภัยในทุกปี ซึ่งจะเป็นฐานข้อมูล และตรวจทานความถูกต้องของข้อมูลที่วิเคราะห์ออกมา
ได้อีกครั้งหนึ่ง
ื่
4.2.4 การวางแผนในการรับมือ เพอป้องกันความเสียหายจากน้ำท่วมมีการจัดทำแผนที่เสี่ยงภัย
และให้คำแนะนำการปลูกพช ระบบการปลูกพช ในเขตที่ดินที่เหมาะสม มีการเฝ้าระวังและคาดการณ์
ื
ื
ื่
ั
ื้
พนที่เสี่ยงต่อการเกิดภัยน้ำท่วม เพอแจ้งเตือนเกษตรกร ควรมีการบูรณาการทำงานร่วมกบหน่วยงานอื่น
ั
เช่น กรมป้องกนและบรรเทาสาธารณภัย กรมชลประทาน กรมส่งเสริมการเกษตร ในการจัดทำแผนงาน
ื่
และโครงการต่าง ๆ เพอช่วยป้องกนและบรรเทาผลกระทบจากภัยพิบัติด้านการเกษตร เช่น การพัฒนา
ั
ื้
แหล่งขุดลอกแหล่งน้ำเป็นพนที่รับน้ำในช่วงฤดูฝน การขุดสระน้ำในไร่นา และการอนุรักษ์ดินและน้ำ
ั
เพื่อป้องกันการชะล้างพงทลายของดิน เป็นต้น
4.2.5 การปรับตัวให้เข้ากับสภาพน้ำท่วม เช่น การทำคันดินเพอป้องกันน้ำท่วม การขุดคูคลอง
ื่
ื้
เพอระบายน้ำออกจากพนที่ซึ่งต้องตระหนักว่าน้ำท่วมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หากอาศัยอยู่ในพนที่ลุ่มน้ำ
ื่
ื้
หรือชายฝั่งแม่น้ำ และยอมรับว่าจะต้องเผชิญหน้ากับน้ำท่วมเป็นประจำ ดังนั้นการให้ข้อมูลและ
ความรู้เรื่องน้ำท่วม การแจ้งเตือนภัยแก่ประชาชนจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพ่อให้สามารถรับมือ
ื
ื
กับปัญหาน้ำท่วมได้ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับระดับน้ำ วิธีการจัดการที่อยู่อาศัย และพ้นที่ทำการเกษตร
การปรับเปลี่ยนฤดูกาลเพาะปลูกโดยเลื่อนช่วงการปลูกข้าวให้เร็วขึ้น หรือการใช้พันธุ์ข้าวอายุสั้นใน
การทำนาครั้งที่ 2 รวมถึงการเปลี่ยนชนิดพชปลูกให้ทนต่อสภาพน้ำท่วมขังก็จะช่วยบรรเทาความเสียหาย
ื
จากภัยน้ำท่วมได้ในระดับหนึ่ง
4.2.6 การมีส่วนร่วมของประชาชนในการรับมือปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในพนที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ื้
จะมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับการรับรู้ถึงสาเหตุการเกิดปัญหาอทกภัย ผลกระทบจากการเกิดอุทกภัย
ุ
และการเตรียมความพร้อมรับมือปัญหาอทกภัย หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคประชาชน ควรเข้ามามีส่วนร่วม
ุ
ในการส่งเสริมการให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมแก่เกษตรกรอย่างสม่ำเสมอ ในช่วงที่เสี่ยง
ต่อการเกิดน้ำท่วม โดยผ่านสื่อต่างๆ ให้มากขน เพอสร้างการรับรู้ให้ประชาชนตื่นตัวกับปัญหาน้ำท่วม
ื่
ึ้
สามารถปรับตัวได้ทันกับสถานการณ์ เพอลดความเสียหายของผลผลิตที่เกิดจากน้ำท่วมลง รวมทั้งสามารถ
ื่
ใช้เป็นข้อมูลเพื่อวางแผนการผลิตในฤดูกาลต่อไป