Page 50 - การจัดทำฐานข้อมูลและวางแผนพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยลุ่มน้ำปิง
P. 50

41



                                                                                     ั
                                          ี
                   2) บริหารจัดการน้ำโดยการมสวนรวมจากประชาชนและผูมสวนไดสวนเสีย โดยอาศยกลไกคณะกรรมการลุมน้ำ
                                                                  ี
                                                                                              ้
                                                                                              ั
                                                                                        ี
                                                                                     ื
                                                        ่
                                                                                        ่
                                                                                     ้
                                       ิ
                   3) ศึกษารูปแบบการเตมน้ำบาดาลในพื้นที โดยคำนึงถึงความเหมาะสมของพนท รวมทงการปนเปอน
                                                                                ่
                                                                                      ั
                                                                                ื
                                                                   ี่
                   สูแหลงน้ำใตดิน 4) อนุรักษและฟนฟูสภาพปาตนน้ำทเสื่อมโทรม เพอปองกนการพังทลายของดิน
                    
                                                 
                                                                             ่
                                                                              ิ
                   และเปนแหลงเกบกกน้ำตามธรรมชาติ 5) ศึกษาการใชประโยชนทดนรอบบริเวณแหลงน้ำธรรมชาต      ิ
                                    ั
                                  ็
                                                                             ี
                       ้
                                                            ้
                                 ่
                          ี่
                                                            ื
                                                               ี
                   ในพืนทลุมน้ำ เพือแกไขปญหาการรุกล้ำ จัดหาพนท่แหลงน้ำของประชาชน และลดปญหาความขัดแยง
                   ระหวางภาครัฐและประชาชน 6) เพมประสิทธิภาพการระบายน้ำ การจัดพืนทีอทกภัยและพืนทีชะลอน้ำ
                                                                                                   ่
                                                                                 ้
                                                                                                ้
                                                                                    ่
                                                                                     ุ
                                                 ่
                                                 ิ
                                                                ี
                                                             ื
                                                             ้
                        ้
                                                                ่
                   รวมทังการปองกนและบรรเทาอทกภัยในเชิงพนทอยางเปนระบบในระดบลุมน้ำและพืนทีวิกฤต
                                  ั
                                                                                     ั
                                                                                                 ้
                                                 ุ
                                                                                                     ่
                                             ิ
                                                                         
                                                                             ั
                                                                                               ื่
                                                              ิ
                                                                    
                   และ 7) สงเสริมการทำเกษตรอนทรีย การปรับปรุงดน ทำปุยน้ำ ปุยหมก จุลินทรียตาง ๆ เพอใหเกษตรกร
                   นำไปใชลดตนทุนการผลิต ทดแทนการใชปุยเคมี เปนตน
                                ้
                              
                   3.5 พื้นที่แลงซำซาก
                       3.5.1 คำจำกดความ
                                  ั
                             ความแหงแลง หมายถง สภาพพืนททขาดน้ำจากการทฝนทิงชวงเปนระยะเวลานานหรือฝนไมตก
                                               ึ
                                                                                                       
                                                         ี
                                                         ่
                                                           ่
                                                           ี
                                                      ้
                                                                            ้
                                                                        ี
                                                                        ่
                                                                                              ้
                                                            
                                                                      ี
                                  ้
                                    ี
                                                                                            
                                    ่
                                                             ี
                         ู
                                                                                                         ั
                                      ี่
                   ตามฤดกาล เปนพืนททอยูหางจากแหลงน้ำ หรือไมมแหลงน้ำเพยงพอ ทำใหดินขาดความชุมชืน ประกอบกบ
                                                                  ิ
                                                                                 ุ
                                                                    ึ
                                                                                         ื้
                                                                             ู
                                                                         ุ
                                                                        
                       ี
                                                                    ้
                   ดินมความสามารถระบายน้ำไดดี ความแหงแลงสามารถเกดขนไดทกฤดกาลทกสภาพพนท และอาจคงอยูได
                                                                                            ี่
                                                                                                        
                   อยางไมจำกดเวลา (สำนักพัฒนาอตุนิยมวิทยา, 2555)
                                               ุ
                             ั
                          
                                                                    ี
                                                           ึ
                             ความแหงแลงดานการเกษตร หมายถง สภาวะทมฝนนอยหรือไมมฝน ทำใหเกดการขาดแคลนน้ำ
                                                                   ่
                                                                                  ี
                                                                                           ิ
                                                                                
                                                                   ี
                   สำหรับพืช ทำใหพืชไดรับความเสียหายเปนบริเวณกวาง (สถาบันวิจัยพัฒนาเพอปองกนการเปนทะเลทราย
                                                                                         ั
                                      
                                                                                    ื
                                                                                    ่
                            ื
                   และการเตอนภัย, 2548)
                                                                    ้
                                                                          ี
                                                                                              ึ
                                                                                         ี
                                 ี่
                              ื้
                             พนทแลงซำซากดานการเกษตร หมายถึง พืนทีทีมความแหงแลง ท่เกิดข้นเปนประจำ
                                                                       ่
                                                                         ่
                                      ้
                   หรือบอยครั้ง จนสรางความเสียหายตอพนทเกษตรกรรม อนมสาเหตุมาจากฝนตกนอยกวาปกติ
                                                                           ี
                                                                         ั
                                                           ี่
                                                        ื้
                                                             ิ
                                                                      ิ
                                                                      ้
                                                                                           ื้
                   หรือฝนตกไมเปนไปตามฤดูกาล แตสวนใหญเกดจากฝนทงชวงเปนเวลานานในพนททำการเกษตร
                                                                                              ี่
                               
                                                                   ื
                   (สถาบันวิจัยพัฒนาเพอปองกนการเปนทะเลทรายและการเตอนภัย, 2548)
                                    ่
                                    ื
                                          ั
                       3.5.2 ประเภทของภัยแลง
                             พจนานุกรมศพทภูมศาสตร ราชบัณฑิตยสถาน กลาวโดยทัวไปไดวาเปนชวงเวลา ซงอากาศแหง
                                             ิ
                                        ั
                                                                            ่
                                                                                 
                                                                                                ึ่
                                                                                                         ้
                                                                     
                         ิ
                   ผิดปกตหรือขาดฝน ทำใหเกิดการขาดแคลนน้ำใชและพชผลตาง ๆ เสียหาย ความรุนแรงของชวงฝนแลงนัน
                                                                ื
                                                     ่
                                                                                      
                   ขึนอยูกบความชื้นในอากาศ ระยะเวลาทีเกดความแหงแลง และความกวางใหญไพศาลของบริเวณพืนที  ่
                                                                                                       ้
                          ั
                    ้
                                                       ิ
                                               
                   ทีมความแหงแลง ใหรายละเอียดไดดังนี้ (สำนักพัฒนาอุตุนิยมวิทยา, 2555)
                      ี
                     ่
                             1) ความแหงแลงเชิงอุตนิยมวิทยา หมายถึง ปริมาณฝนโดยเฉลี่ยจะมปริมาณนอยกวาเดิม
                                                 ุ
                                                                                        ี
                   เมื่อเปรียบเทียบกบชวงระยะเวลายาวนานในอดีตทผานมา
                                                             ี่
                                  ั
                                                    ุ
                             2) ความแหงแลงภาคทางอตนิยมวิทยาเกษตร หมายถึง พิจารณาถึงความชื้นในดินพอเพียง
                                                     ุ
                                                                              ี่
                     ่
                   ทีสามารถจะนำไปใชประโยชนสำหรับพืช โดยจะพิจารณาจากผลผลิตทไดจากการเพาะปลูก เปรียบเทียบ
                                       ิ
                                                 ี่
                                         
                    ั
                   กบสภาวะทพืชใชน้ำปกต ถาผลผลิตทไดมปริมาณนอยกวาโดยเฉลี่ยแลว กคงเพราะสาเหตุของการขาดแคลนน้ำ
                                                                             ็
                            ี
                                                   
                            ่
                                                    ี
                                                ุ
                                                                                                  ่
                                                                                                   ี
                                                                                            ู
                                                                               ี
                                                                                 ิ
                             3) ความแหงแลงเชิงอทกวิทยา หมายถึง ความแหงแลงทเกดจากชวงฤดกาลทีมปริมาณ
                                                                               ่
                                                                                        
                                                                                   
                                                                                            ็
                   ฝนตกนอยหรือไมมฝนตก ทำใหระดับน้ำผิวดินและน้ำใตดินคือ น้ำในแมน้ำ อางเกบน้ำ ทะเลสาบ
                                   
                                    ี
                                                                         ิ
                                    ั
                                          ึ่
                   และน้ำบาดาลลดระดบลง ซงความแหงแลงเชิงอทกวิทยานี มกจะพจารณาในระดบของลุมน้ำ ความแหงแลง
                                                                                          
                                                                    ั
                                                                  ้
                                                          ุ
                                                                                    ั
                                         ี
                                                                                ุ
                                              ้
                   เชิงอทกวิทยาเปนปญหาท่เกิดขนอยางชา ๆ ตางจากความแหงแลงเชิงอตุนิยมวิทยา และความแหงแลง
                                              ึ
                       ุ
                   เชิงเกษตรกรรม
                             4) ความแหงแลงเชิงเศรษฐศาสตรและสังคม หมายถึง ความแหงแลงที่เกี่ยวของกบทรัพยากรทีมอยู
                                                                                        
                                                                                                       ี
                                                                                                      ่
                                                                                            ั
                                                                  ั
                                                                                              ี
                   และความตองการทรัพยากรนั้น แตเนื่องจากความจำกดของทรัพยากร และประชากรมความตองการ
                                                                                                    
   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55