Page 15 - การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณน้ำฝนกับความชื้นในดินของพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ง จังหวัดสระแก้ว
P. 15

6


                  2.3  สภาพภูมิอากาศ

                                                         ุ
                                                                                                      ี
                        จังหวัดสระแกว อยูภายใตอิทธิพลของมรสมที่พัดเวียนประจำฤดูกาล 2 ชนิด คือ มรสุมตะวันออกเฉยงเหนือ
                  ซึ่งพัดพามวลอากาศเย็นจากประเทศจีนลงมาปกคลุมในชวงฤดูหนาว ทำใหจังหวัดสระแกวมีอากาศเย็นลง
                                            ื
                  ระหวางเดือนพฤศจิกายนถึงเดอนกุมภาพันธ และมรสุมตะวันตกเฉียงใตซึ่งพัดปกคลุม ในชวงฤดูฝนประมาณ
                                                ุ
                                            ื
                        ื
                  กลางเดอนพฤษภาคมถึงกลางเดอนตลาคม ซึ่งทำใหอากาศชุมชื้นและมีฝนตกทั่วไป
                        ฤดูกาล พิจารณาตามลักษณะลมฟาอากาศของประเทศไทย สามารถแบงฤดูกาลของจังหวัดสระแกว
                    
                            ู
                  ไดเปน 3 ฤด ดังนี้ (กรมอุตุนิยมวิทยา, 2566)
                        ฤดูหนาว เริ่มตั้งแตกลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ ซึ่งเปนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
                                                                         ่
                                                                                                           ุ
                  พัดเขามาปกคลุม โดยบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนทีมีคุณสมบัติเย็นและแหงจะแผลงมาปกคลม
                                                                                            
                                                                                                            ู
                  ประเทศไทย แตเนื่องจากจังหวัดสระแกวอยในละติจูดที่คอนขางหางไกลจากศูนยกลางของบริเวณความกดอากาศสง
                                                                   
                                                    ู
                  และมีเทือกเขาทางตอนเหนือของจังหวัดขวางกั้นมวลอากาศเย็นทแผลงมา อากาศจึงไมหนาวเย็นมากนัก
                                                                        
                                                                     ี่
                        ฤดูรอน เริ่มประมาณกลางเดือนกุมภาพันธถึงกลางเดือนพฤษภาคม ฤดูนี้ลมฝายใตและลมตะวันออกเฉียงใต  
                                                                                                            ุ
                  พัดปกคลุม อุณหภูมิเริ่มสูงขึ้นทำใหมีอากาศรอนอบอาวทั่วไป โดยเฉพาะเดือนเมษายนเปนเดือนที่มีอากาศรอนท่สด
                                                                                                          ี
                  ในรอบป
                        ฤดูฝน เริ่มตั้งแตกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม ซึ่งเปนระยะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต
                  พัดเขาสูประเทศไทย อากาศจะเริ่มชุมชื้นขึ้นและมีฝนตกชุกตั้งแตเดือนพฤษภาคมเปนตนไป โดยมีฝนตก
                  หนาแนนในชวงเดือนสิงหาคมและกันยายน
                                           ี
                        จากขอมูลภูมิอากาศทสถานีตรวจวัดอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาที่ตั้งอยูในพื้นทจังหวัดสระแกว
                                           ่
                                                                                               ี
                                                                                               ่
                                                                                                       ี
                                                                                    ั
                                                                                                        ั
                                                                  ั
                                                                                          ู
                                                                                           ิ
                                                                            ื
                  สถิติขอมูลชวง 30 ป ตั้งแต พ.ศ. 2537- 2566 แสดงการผนแปรรายเดอนของตวแปรภมอากาศ โดยมตวแปร
                  ภูมิอากาศที่สำคัญ ไดแก อุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ ปริมาณการระเหยจากถาดและปริมาณฝน สรุปไดดังนี้
                               ิ
                        อุณหภูม: อุณหภูมิรายเดือนเฉลี่ยมีคาอยูระหวาง 25.3 – 30.1 องศาเซลเซียส โดยชวงที่อุณหภูม  ิ
                  เฉลี่ยต่ำสุดประมาณเดือนธันวาคมและอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดประมาณเดือนเมษายน อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งป  
                  มีคาเทากับ 27.9 องศาเซลเซียส
                        ความชื้นสัมพัทธ: ความชื้นสัมพัทธรายเดือนเฉลี่ยมีคาอยูระหวาง 64 – 88 เปอรเซ็นต โดย ชวงเวลาที่มี
                                                                                              
                                                                                                   ื
                                    ุ
                                                             
                  คาความชื้นสมพัทธต่ำสดประมาณเดือนกุมภาพันธและชวงเวลาที่มีคาความชื้นสมพัทธสูงสุด ประมาณเดอนกันยายน
                            ั
                                                                                ั
                                                                       
                  คาความชื้นสัมพัทธรายปเฉลี่ยเทากับ 76.3 เปอรเซ็นต
                        ปริมาณการระเหยจากถาด: ปริมาณการระเหยรายเดือนเฉลี่ยมีคาอยูระหวาง 96.9 – 163.8 มิลลิเมตร
                  เดือนกันยายนเปนเดือนที่มีปริมาณการระเหยต่ำสุด ในขณะที่เดือนมีนาคมเปนเดือนที่มีปริมาณการระเหยสูงสุด
                  คาปริมาณการระเหยรวมทั้งปประมาณ 1,540.0 มิลลิเมตร
                                                                                                       
                        ปริมาณฝน: ปริมาณฝนรายเดือนเฉลี่ยมีคาอยูระหวาง 5.2 – 293.4 มิลลิเมตร เดือนธันวาคมเปนเดอน
                                                          
                                                                                                          ื
                  ที่มีปริมาณฝนตกต่ำสุด ในขณะที่เดือนกันยายนเปนเดือนที่มีปริมาณฝนสูงสุด ปริมาณฝนรวมทั้งปประมาณ
                                                                                              ่
                                                                                              ี
                                                                                   ี
                  1,431.2 มิลลิเมตร โดยตลอดทั้งปมีจำนวนวันฝนตกเฉลี่ย 132.8 วัน  (ตารางท 1 และภาพท 4)
                                                                                   ่
   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20